สวัสดีค่ะ ป้าแหม่ม
หนูเป็นเด็กที่เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งค่ะ แต่ตอนนี้รู้สึกหมดไฟกับทุกอย่าง ไม่อยากทำงาน ถึงแม้ใจจะอยากแค่ไหนก็ตาม ทั้งหมดนี้คือผลจากการเรียนมหาวิทยาลัยตลอด 4 ปีค่ะ
หนูเข้ามาเรียนปี 1 ด้วยใจที่ฟูมากอยากมีชีวิตแบบอิสระมานานแล้ว แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด ทั้งโปรเจกต์ การบ้าน งานกลุ่มต่างๆ มันรุมเข้าในเวลาเดียวกัน 1 วิชา 1 งาน ไม่มีการบูรณาการใดๆ เพื่อนที่เคยนั่งข้างๆ กันก็เริ่มหายไป
บางคนเปลี่ยนที่เรียน บางคนต้องดร็อปเพราะเป็นซึมเศร้า และหนักที่สุด คือ การสอบธีสิส กว่าหนูจะผ่านมาได้ เหมือนใช้พลังงาน ความรู้ และน้ำตาทั้งหมดไปกับธีสิส แก้งานมากี่ครั้งก็ไม่เคยถูกใจกรรมการที่ตรวจธีสิสเลยค่ะ ทำไมการทำสิ่งที่อยากทำถึงยากขนาดนี้ เราควรจะมีความสุขไม่ใช่เหรอคะ
อาจารย์ชอบบอกว่า โลกข้างนอกมันโหดร้ายกว่าชีวิตมหา’ลัย หนูอยากรู้ว่า โลกข้างนอกมันโหดร้ายกว่านี้จริงๆ เหรอคะ
อาจารย์ชอบบอกว่า โลกข้างนอกมันโหดร้ายกว่าชีวิตมหา’ลัย หนูอยากรู้ว่า โลกข้างนอกมันโหดร้ายกว่านี้จริงๆ เหรอคะ
ทำไมการเรียนต้องยากขนาดนี้ด้วย การเรียนมันควรเป็นสิ่งที่เราชอบ เราสนุกและมีความสุข ไม่ใช่เหรอคะ
ชีวิต 4 ปีในมหา’ลัยเหมือนมันดูดความฝันของหนูไปหมดแล้วค่ะ อยากปรึกษาป้าแหม่มว่า หนูจะปลอบตัวเองยังไงคะให้กลับมามีไฟและกล้าทำในสิ่งที่อยากทำได้อีกครั้ง
ขอบคุณค่ะ
โบว์, กรุงเทพฯ
……
หนูไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้วนะคะ หนูจบแล้ว ยินดีด้วยนะคะ หนูเก่งมาก
แทนที่จะโกรธกรุ่นไม่เลิกรา ป้าอยากให้หนูเริ่มจากการขอบคุณตัวเองเป็นอันดับแรก ขอบคุณนะโบว์ เธอเก่งมาก เราผ่านด่านมาได้แล้ว ในขณะที่หลายคนไม่ผ่าน…ดังที่หนูเล่า ไชโย! บอกตัวเองค่ะว่าแม้จะเหนื่อยล้า แต่ไม่เป็นไรอีกแล้ว เราไม่ต้องทนอีกต่อไปแล้ว เราไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ขอบคุณๆๆ
แล้วฉลองแล้วยังล่ะคะ ถ้ายังก็ฉลองค่ะ
ฉลองด้วยการเดินทางค่ะ หนูมีเวลาแล้ว สิ่งที่มีค่าที่สุดในโลกคือเวลา หนูรวยละค่ะที่มีเวลา ถ้าปัจจัยอำนวยและไหวก็ไปไกลๆ ไม่ไหวก็ใกล้ๆ หน่อย ไปทะเลก็ได้ค่ะ นอนนิ่งๆ มองฟ้า นั่งเงียบๆ มองเส้นขอบฟ้า สัมผัสและปล่อยให้พื้นที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลโอบกอด บอกตัวเองว่าพ้นชายหาดนั่นออกไปคือโลก โลกกว้างทั้งใบที่รอให้หนูไปค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ
และพ้นจากนาทีนี้ไปคือชีวิต ชีวิตอีกยาวนานงดงามที่รอให้หนูไปค้นหาความหมายอันเป็นอนันต์ ถัดจากนั้นก็กลับมาหางานทำค่ะ
งานอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสายที่เรียนมา (หนูไม่ได้เล่าว่าเรียนอะไรมา) เงินเดือนสูงๆ ไหม ไม่ต้อง แต่งานอะไรก็ได้ที่หนูว่าน่าสนใจ ไม่ต้องดูความยากง่ายหรือรายได้ (หนูน่าจะหาได้ไม่น้อยกว่าตอนเรียนที่มีพ่อแม่จ่ายให้ คือไม่ลำบากกว่าเคย) หนูยังไม่ติดหรู หนูจะอยู่ด้วยรายได้น้อยๆ ได้สบายๆ พอที่จะใช้เวลานี้ค้นหาและสร้างประสบการณ์
ถ้าน่าสนใจจริงและชอบจริงก็ทำนานหน่อย ไม่ชอบก็เปลี่ยน มองหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
สี่ปีของหนูคือเรียนเพื่อจะเป็นสิ่งที่ ‘คนยังไม่รู้จักชีวิต’คนหนึ่งคิดว่าตัวเอง ‘อยากเป็น’ ตอนนี้คือของจริงค่ะ ชอบหรือไม่ชอบอะไร เหมาะหรือไม่เหมาะอะไร ชีวิตจริง งานจริง คนจริง โลกจริงอยู่ตรงหน้า อย่าพลาดค่ะ
สี่ปีของหนูคือเรียนเพื่อจะเป็นสิ่งที่ ‘คนยังไม่รู้จักชีวิต’คนหนึ่งคิดว่าตัวเอง ‘อยากเป็น’ ตอนนี้คือของจริงค่ะ ชอบหรือไม่ชอบอะไร เหมาะหรือไม่เหมาะอะไร ชีวิตจริง งานจริง คนจริง โลกจริงอยู่ตรงหน้า อย่าพลาดค่ะ
เรื่องเศร้าคือเราต้องเลือกชีวิตตั้งแต่อายุสิบแปด ตอนที่เราไม่รู้ว่าอยากเป็นใคร ครึ่งหนึ่งของความทุกข์ที่ผ่านมาของหนูคือสิ่งนี้ …หนูอกหักค่ะ มันอาจไม่ได้เป็นงานที่หนูชอบทำมากนัก ไม่สบายหรือง่ายอย่างที่คิดตอนเลือก และแย่กว่าอะไรทั้งหมด หนูไม่รู้ว่าหนูชอบอะไร หนูถึงรู้สึกเหมือนโดนมหาวิทยาลัยเอาเปรียบ…ถูกทรยศ ซึ่งนั่นก็จริงส่วนหนึ่งอีกเหมือนกัน หนูเหนื่อยล้าไร้แรงบันดาลใจเพราะหนูไม่สนุกค่ะ บางทีนี่ก็อาจไม่ใช่งานที่หนูอยากทำ อยากเป็น และเหมาะกับหนูจริงๆ ก็ได้
แต่ไม่ว่าจะอะไรอย่างไร …มันไม่เป็นไรแล้วตอนนี้ ไม่เป็นไรแล้วอีกต่อไป หนูมีความสามารถมากพอที่จะทำมันเมื่อไรก็ได้ …ขอบคุณตัวเองอีกครั้ง อย่าลืม
แต่ไม่ว่าจะอะไรอย่างไร …มันไม่เป็นไรแล้วตอนนี้ ไม่เป็นไรแล้วอีกต่อไป หนูมีความสามารถมากพอที่จะทำมันเมื่อไรก็ได้ …ขอบคุณตัวเองอีกครั้ง อย่าลืม
ใช้เวลาสามถึงห้าปีจากนี้เป็นโอกาสเรียนรู้ชีวิตแบบอื่นค่ะ งานแบบอื่น คนแบบอื่น ความเป็นไปได้อื่นๆ แล้วค่อยคิดลงหลักปักฐาน หางานที่อยากทำจริงๆ
ตอนนี้ยังเป็นเวลาเหมาะที่สุดสำหรับค้นหาตัวเองด้วย หนูยังไม่มีครอบครัวให้ห่วง พ่อแม่ยังไม่แก่มากและไม่ป่วยไข้ ไม่มีความจำเป็นทางเศรษฐกิจมาขวางกั้นหนูจากอะไร ทำงานที่ไม่เคยทำ ค้นหาสิ่งที่ชอบ ถนัด สามารถ เรียนรู้ สร้างประสบการณ์
เมื่อมีเวลาว่าง ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ขอให้ใช้กับงานอาสาสมัคร อยู่เพื่อคนอื่นบ้างสักวันสองวัน…หรือช่วงหนึ่ง เรียนและรู้จักชีวิตที่เข้าไม่ถึงโอกาสของผู้คนจะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดของมนุษย์ มันจะช่วยให้หนูเข้าใจคนอื่นและโลก มีความภาคภูมิ นับถือ รักตัวเองและคนอื่น และสร้างสรรค์
จากนั้นก็ตามหาความรักค่ะ มองหาใครสักคนที่จะอยู่เป็นเพื่อนชีวิต ใครที่ให้หนูรู้สึกว่าไม่ว่าหนูจะอย่างไรเขาก็เข้าใจ หนูดีพอ สวยพอ เก่งพอ
ยินดีด้วยมากๆ อีกครั้งค่ะโบว์ แล้วหนูก็มาถึงตอนที่น่าสนใจที่สุดและอาจจะดีที่สุดของชีวิตแล้วจนได้…ในที่สุด อย่าเสียเวลาไปกับการมองกลับไปข้างหลัง คร่ำครวญ สงสารตัวเอง ออกมาจากมหาวิทยาลัยได้แล้วค่ะ จบจริงๆ เสียที ไปๆๆ ไปข้างหน้า
เดินทาง แสวงหาประสบการณ์ร่วมกับโลกทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ สร้างมิตรภาพรายทาง และตามหาความรัก
ขอให้โชคดีค่ะ