- ลาเวิร์น ค็อกซ์ นักแสดงและนักเคลื่อนไหวข้ามเพศเพื่อสิทธิ LGBTQ+ ชาวอเมริกัน จับมือกับแมทเมลผลิต ‘บาร์บี้ข้ามเพศ’ ตัวแรกของโลก
- “เราต้องทำให้คนข้ามเพศเห็นตัวเองอยู่ในภาพยนตร์ ซีรีส์ และของเล่น ช่วยให้เราสามารถจินตนาการถึงโลกที่เราดำรงอยู่ด้วยตัวตนที่แท้จริง แทนที่ต้องเปลี่ยนตัวเองให้ลงตัวกับโลก”
กี่ครั้งกันที่เราในวัยเด็กถูกห้ามทำบางสิ่ง เพราะสิ่งนั้นไม่ตรงกับ ‘วิถีเพศ’ ที่สังคมตั้งไว้…
เช่นชีวิตวัยเด็กของ Laverne Cox (ลาเวิร์น ค็อกซ์) นักแสดงและนักเคลื่อนไหวข้ามเพศเพื่อสิทธิ LGBTQ+ ชาวอเมริกัน เล่าว่า เขาถูกแม่ห้ามเล่นบาร์บี้ เพราะเป็น ‘เด็กผู้ชาย’ นั่นกลายเป็นแผลที่อยู่ในใจค็อกซ์มาโดยตลอด
ค็อกซ์ในวัย 50 ปี จับมือกับแมทแทล (Mattel) ผู้ผลิตบาร์บี้ สร้างบาร์บี้ทรานส์เจนเดอร์ตัวแรก (โปรเจกต์ Tribute Collection สร้างบาร์บี้ตามบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านต่างๆ เช่น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ) และหวังว่านี่จะเป็นก้าวสำคัญเพื่อบอกเด็กๆ ว่าโลกนี้กว้างยิ่งนัก ชั้นวางของเล่นก็ควรกว้างและหลากหลายเช่นนั้น
การปล่อยตุ๊กตาในช่วงที่สิทธิของคนข้ามเพศทั่วโลกกำลังสั่นคลอน โดยเฉพาะในอเมริกาที่มีการออกกฎหมายมากกว่า 130 ฉบับ จำกัดสิทธิเยาวชนข้ามเพศในรัฐต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรัฐอาร์คันซอ โอคลาโฮมา เท็กซัส รวมถึงรัฐแอละแบมาบ้านเกิดของค็อกซ์ เช่น ปฏิเสธไม่ให้คนข้ามเพศเข้าถึงบริการสุขภาพที่ตระหนักถึงประเด็นทางเพศ ห้ามไม่ให้หญิงข้ามเพศเล่นกีฬาในทีมนักกีฬาหญิง ห้ามไม่ให้ใช้ห้องน้ำที่ไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิดตัวเอง เป็นต้น
ค็อกซ์หวังว่า บาร์บี้คอลเล็กชันนี้จะมอบความหวังให้กับเด็ก LGBTQ+
ตัวแทนจากแมทแทล เล่ากระบวนการสร้างบาร์บี้ตัวนี้ว่า พวกเขาพยายามถอดรูปลักษณ์และสไตล์ของค็อกซ์ผ่านการแต่งหน้าและทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์ รวมไปสไตล์การแต่งตัวของเธอ ตุ๊กตาถูกนำเสนอผ่านในชุดแคทสูทสีเงินแวววาวที่หุ้มด้วยคอร์เซ็ตหนังสีแดงและกระโปรงผ้าโปร่ง
“มันเป็นความฝันมานานหลายปีที่จะได้ร่วมงานกับตุ๊กตาบาร์บี้ เพื่อสร้างตุ๊กตาของตัวเอง” ค็อกซ์กล่าวในงานเปิดตัวบาร์บี้ “ฉันรอไม่ไหวที่แฟนๆ จะได้เห็นตุ๊กตาของฉันบนชั้นวาง และมีโอกาสเพิ่มบาร์บี้ข้ามเพศในคอลเล็กชันของพวกเขา ฉันหวังว่าผู้คนจะมองดูบาร์บี้ตัวนี้ และได้มีความฝัน เหมือนฉันฝันที่จะทำอาชีพนี้ ความฝันและการได้แสดงมันออกมาถือเป็นสิ่งที่ทรงพลัง และนำคุณไปสู่ความสำเร็จได้มากกว่าที่คุณเคยคิดไว้”
บาร์บี้ของค็อกซ์เปิดตัวก่อนวันเกิดครบรอบ 50 ปีของเธอในวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ยอดขายบาร์บี้คอลเล็กชันนี้จะบริจาคเงินในนามของค็อกซ์ ให้กับ TransFamily Support Services องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ค็อกซ์ร่วมงานด้วยซึ่งมีเป้าหมายที่จะสร้างสังคมที่เข้าใจ ยอมรับ และตระหนักถึงอัตลักษณ์และการแสดงออกทางเพศมากขึ้น
“สิ่งที่ทำให้ฉันตื่นเต้นมากที่สุด เมื่อตุ๊กตาตัวนี้ได้ออกไปสู่โลกข้างนอก คือ การที่คนข้ามเพศจะมองเห็นเธอ อาจจะซื้อ หรือเล่นกับเธอ”
เพราะการถูกพ่อแม่ห้ามเล่นบาร์บี้ยังคงเป็นแผลในใจค็อกซ์มาโดยตลอด
“ตอนที่ฉันอายุประมาณ 30 – 40 ปี ฉันได้เข้ารับการบำบัด ฉันเล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟัง ฉันถูกปฏิเสธไม่ให้เล่นตุ๊กตาบาร์บี้ นักบำบัดของฉันบอกว่า “ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะมีวัยเด็กที่มีความสุข และสิ่งที่คุณควรทำเพื่อความเป็นเด็กในตัวคุณคือ ออกไปซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ให้ตัวเอง”
“ฉันเล่นกับตุ๊กตาบาร์บี้ และบอกแม่ว่านักบำบัดของฉันพูดอะไร และคริสต์มาสปีแรกหลังจากนั้น แม่ของฉันก็ส่งบาร์บี้มาให้ฉัน และเธอยังคงส่งบาร์บี้มาให้ฉันสำหรับคริสต์มาสและวันเกิดของฉัน”
“ฉันรู้สึกมีความสุขที่ได้เรียกคืนความเป็นเด็กในตัวฉันอีกครั้ง รักษาเธอ และให้สิ่งที่เธอไม่เคยได้รับในวัยเยาว์ ตอนนี้ฉันสามารถมอบสิ่งเหล่านั้นให้กับเธอ และบาร์บี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนอย่างเห็นได้ชัด”
“ดังนั้น การที่ฉันจะอายุ 50 ปี แปลงเพศ และมีบาร์บี้เข้ามาในชีวิตของฉัน มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นช่วงเวลาแห่งการรักษาที่ครบวงจร”
ทักษะที่ได้จากการเล่นตุ๊กตาที่เอกลักษณ์เฉพาะตัว
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แมทเทิลได้ร่วมงานกับทีมนักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ เปิดเผยผลการวิจัยล่าสุด จากการศึกษาหลายปีที่สำรวจผลกระทบต่อพัฒนาการในระยะสั้นและระยะยาวของการเล่นตุ๊กตา พวกเขาค้นพบว่าเมื่อเด็กๆ เล่นตุ๊กตาตามลำพัง พวกเขาจะพัฒนาภาษาเกี่ยวกับความคิดและอารมณ์ของผู้อื่นมากขึ้น
ผลการศึกษาของฮาร์วาร์ดยังพบว่า 61% ของผู้ปกครองรายงานว่า การระบาดของโควิด – 19 ส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางอารมณ์และสังคมของลูก ดังนั้น การเล่นตุ๊กตา รวมไปถึงตุ๊กตาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ตุ๊กตา Laverne Cox จึงส่งผลดีต่อเด็กๆ ในช่วงเวลาเช่นนี้
“เรารู้ว่าการเล่นตุ๊กตาสามารถช่วยสร้างทักษะทางสังคมที่สำคัญ เช่น ความเห็นอกเห็นใจ” ลิซ่า แม็คไนท์ (Lisa McKnight) รองประธานบริหารของแมทเทลกล่าว “เรื่องราวของค็อกซ์มีพลังที่จะเฉลิมฉลองการยอมรับและความเมตตา และสนับสนุนให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองผ่านการเล่น ตุ๊กตาของเธอพร้อมกับคอลเล็กชันทั้งหมดของเราช่วยให้แฟนๆ ทุกวัยสามารถค้นพบตัวเองด้วยความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด เราภูมิใจที่จะเน้นย้ำถึงความสำคัญทุกช่วงอายุ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บาร์บี้พยายามถ่ายทอดความหลากหลายในสังคม หลังจากหลายทศวรรษของการปล่อยตุ๊กตาที่มีร่างกายและเชื้อชาติในรูปแบบเดียว แมทเทลได้เปิดตัวบาร์บี้ที่มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบาร์บี้ที่มีความเป็นกลางทางเพศ (gender-neutral) รวมถึงบาร์บี้ที่สวมขาเทียม และเป็นโรคด่างขาว (Vitiligo)
ซึ่งการนำเสนอบาร์บี้ในบทบาทนักเคลื่อนไหวข้ามเพศถือเป็นความก้าวหน้าครั้งล่าสุดของบาร์บี้ “การที่ผู้คนจะสามารถเห็นตัวเองได้ เป็นเรื่องสำคัญมาก” ค็อกซ์กล่าว “เมื่อเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ และของเล่นที่เด็กๆ เล่น เราต้องทำให้คนข้ามเพศเห็นตัวเองอยู่ในนั้น นั่นช่วยให้เราสามารถจินตนาการถึงโลกที่เราดำรงอยู่ด้วยตัวตนที่แท้จริงของเรา แทนที่จะจินตนาการว่า เราต้องเปลี่ยนตัวเองให้ลงตัวกับโลกภายนอก”
ค็อกซ์หวังว่าคนที่เห็นตุ๊กตาของเธอจะรู้สึกถึงสิ่งหนึ่ง “ฉันหวังให้คนข้ามเพศรู้ว่าเราจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาโอเค มีคนที่รักพวกเขา ซึ่งพวกเขาน่ารัก และบุคคลข้ามเพศนั้นสวยงาม”
Laverne Cox (ลาเวิร์น ค็อกซ์) นักแสดงและนักเคลื่อนไหวข้ามเพศเพื่อสิทธิ LGBTQ+ โด่งดังจากบทบาท ‘โซเฟีย เบอร์เซต’ ในซีรีส์ Netflix ‘Orange Is the New Black’ เป็นบุคคลข้ามเพศคนแรกที่ได้รับเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Primetime Emmy Award ในประเภทการแสดง ค็อกซ์เป็นหนึ่งในนักเคลื่อนไหวข้ามเพศที่น่าจับตามองขณะนี้ เธอใช้เสียงของตัวเองในฐานะ ‘ผู้หญิงข้ามเพศผิวดำ’ สนับสนุนให้คนข้ามเพศคนอื่นๆ |