- การค้ามนุษย์คืออะไร , ทำไมคนถึงทำกับคนด้วยกันอย่างนี้ และ โลกเรามีคนเก่งๆ มากมาย ทำไมเราถึงไม่แก้ปัญหานี้กัน
- เมื่อประโยคคำถามเหล่านี้มาจากลูกเมื่อเขาสงสัยในประเด็นผู้ลี้ภัย คุณจะตอบเขาว่าอย่างไร
- ใช่หรือไม่ว่าตำราการเลี้ยงลูกที่ดีที่สุดคือการเข้าใจกระบวนการของชีวิต เข้าใจปัญหาสังคม ตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก
เรากำลังเข้าสู่ยุคที่โลกกำลังเข้าสู่ขั้นวิกฤต
ทรัพยากรถูกใช้ไปจนเหลือน้อยและกำลังเข้าสู่ภาวะขาดแคลน
ภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาใหญ่ของมนุษยชาติ
โรคระบาดพรากชีวิตผู้คนไปอย่างมหาศาล
เรามีกลุ่มคน 10% ที่ถือครองทรัพยากร 70%
การตัดสินใจพาคนเข้าสู่สงคราม เป็นไปด้วยคนจำนวนเพียงหยิบมือ
เราจำเป็นต้องทบทวนอย่างจริงจังว่า 30 ปีที่ผ่านมา ระบบพัฒนาคน ระบบการศึกษา ระบบการเรียนรู้ ระบบการเลี้ยงดู ที่เราเคยให้คุณค่ากับการสร้างคนให้เก่ง ดี เลิศ นั้นขับเคลื่อนโลกของเราไปถูกทางจริงหรือเปล่า
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คุณรังสิมันต์ โรม ได้อภิปรายถึงกรณีการค้ามนุษย์ของชาวโรฮิงญาในสภา เล่าถึงความโหดร้ายและความทารุณที่พวกเขาได้รับ การไม่มีผืนแผ่นดินอาศัยอยู่ ต้องลี้ภัยไปเรื่อยๆ ความอดอยาก และการไม่มีที่อยู่ในโลกที่ทรัพยากรมีมากเพียงพอสำหรับทุกคนกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการถูกเอาปรียบ การถูกทำร้าย กักขัง ถูกย่ำยี ที่ชาวโรฮิงญาได้รับจากคนที่เป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันซ้ำแล้วซ้ำอีก
ฉันฟังอภิปรายวันนั้น อย่างไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ ลูกสาวที่นั่งอยู่อีกห้องหนึ่งเดินมาทักว่า “แม่น้ำตาไหล” เมื่อฉันเริ่มเล่าให้ลูกฟัง แน่นอนว่าเขามีคำถามมากมาย เช่น “การค้ามนุษย์คืออะไร” “ทำไมคนถึงทำกับคนด้วยกันอย่างนี้” ไปจนคำถามที่ลูกถามทิ้งไว้ให้คิดว่า “โลกเรามีคนเก่งๆ มากมาย ทำไมเราถึงไม่แก้ปัญหานี้กัน”
‘ฉัน’ ในฐานะแม่ ระหว่างที่กำลังตอบคำถามลูก ทำให้ฉันเอะใจกับตัวเองว่า ‘หน้าที่ของแม่’ คืออะไรกันแน่ การคิดเพียงแค่หาทางสนับสนุนให้ลูกตั้งใจเรียน ค้นหาความสามารถ ทำให้ลูกรู้จัก ‘แพสชัน’ ของตัวเอง เพื่อพัฒนาไปสู่ความเก่ง ความเลิศ ท่ามกลางโลกที่กำลังหมุนไปแบบนี้ เป็นวิธีที่ฉันจะเลือกในการช่วยสนับสนุนและสร้างชีวิตหนึ่งขึ้นมาในโลกจริงๆ ใช่ไหม
ฉันจะเป็นแม่ที่มีส่วนในการสร้างชีวิต สนับสนุนการเติบโตของมนุษย์แบบไหน หากฉันไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับความทนทุกข์เหล่านั้นที่ชาวโรฮิงญากำลังได้รับ
รัฐบาลควรมาตอบคำถามนี้ สังคมควรตอบคำถามนี้ พวกเราทุกคนควรมาตอบคำถามนี้
ฉันขอร้องเลยว่า คุณอย่าฆ่าคำถามของเด็กๆ ด้วยคำตอบง่ายๆ ที่พูดว่า “เป็นเด็ก มีหน้าที่ตั้งใจเรียนหนังสือก็พอ” หากเราตั้งใจจะสนับสนุนเด็กยุคถัดไปให้เป็น active citizen อย่างที่เขียนไว้ในแผนพัฒนาการศึกษาชาติ เราทุกคนควรตอบคำถามเหล่านี้ของเด็กด้วยความรับผิดรับชอบ
อย่างน้อยที่สุดทำให้เราทบทวนดูว่า งบประมาณ 1 ใน 4 ของประเทศที่ถูกใช้ทุกปี จะมีส่วนในการสร้างคนแบบไหนออกไปขับเคลื่อนสังคมที่มองเห็นเพื่อนมนุษย์ไม่ดูดายและทิ้งใครไว้ข้างหลัง
องค์กร หน่วยงานที่สนับสนุนเรื่องการศึกษาและการเรียนรู้ควรตระหนักรู้ได้แล้วว่าการทุ่มเททรัพยากรไปกับการสร้างคนเก่ง คนเลิศ ระดับท็อป ระดับครีม จำนวนไม่เกิน 10% แล้วหวังว่าคนเหล่านี้จะช่วยคนอีก 90% ให้ผลกับการพัฒนาประเทศอย่างไร เราจะยังใช้กลวิธีการแบบเดิมๆ เป็นทิศทางของการขับเคลื่อนประเทศจริงๆ อยู่ใช่ไหม
ในนาทีนี้เราอาจต้องการ changemaker หรือนักสร้างการเปลี่ยนแปลง ที่ช่วยแก้ปัญหาที่ผุดพรายขึ้นมากมายอยู่ทุกวัน มากพอๆ กับการสนับสนุนคนเก่งๆ
สำหรับพ่อแม่ หากคุณกำลังมองหาตำราเลี้ยงลูก ฉันขอพื้นที่ให้คุณอ่านโลก อ่านสังคม อ่านเพื่อนมนุษย์ให้มากเท่ากับการอ่านตำราเลี้ยงลูก เพราะตำราการเลี้ยงลูกที่ดีที่สุดคือการเข้าใจกระบวนการของชีวิต เข้าใจปัญหาสังคม ตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทุกวันนี้ โลกที่กำลังบิดเบี้ยวชวนเราทบทวนกันอยู่ว่า สิ่งที่เราทำซ้ำๆ กันมาหลายสิบปีนั้น เราจะทำกันอย่างเดิมอยู่ไหม