มีชีวิตให้โลดโผนโจนทะยานสู่จินตนาการของ วอลเตอร์ มิตตี้ : the secret life of walter mitty (2013)

  • เดินทางค้นหาความหมายที่แท้จริงของการชีวิตผ่านประสบการณ์ และจินตนาการสุดอัศจรรย์ของ วอลเตอร์ มิตตี้  
  • ชีวิต หน้าที่ความรับผิดชอบ และความฝันเป็นส่วนประกอบที่ต้องรู้จัก วิธีการจัดการควบคุมไปพร้อม ๆ กัน
  • กล้าก้าวเดินออกจากพื้นที่คุ้นเคย เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์ที่จะผ่านเข้ามา

เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจาก วอลเตอร์ มิตตี้ หนุ่มโสดวัยกลางคนที่มีชีวิตแสนธรรมดาไร้ความพิเศษ สำหรับคนอื่น ๆ เขาเป็นเพียง ‘นายโนบอดี้’ ที่ทำงานเป็นหัวหน้าแผนกคัดแยกฟิล์ม เพื่อนำมาเป็นภาพขึ้นปก LIFE นิตยสารที่กำลังจะเปลี่ยนถ่ายจากรูปเล่มสู่ระบบออนไลน์ โดยรูปที่จะใช้เป็นปกเล่มสุดท้ายล่องหนหายไปจากม้วนฟิล์มทั้งหมดซึ่งถูกส่งกลับมาพร้อมกระเป๋าเงิน วอลเตอร์จำต้องหาทางติดต่อ ฌอน โอคอนเนล ช่างภาพอิสระเจ้าของฟิล์มม้วนนั้น บุคคลผู้ใช้ชีวิตสุดแสนจะลึกลับที่หาตัวได้ยากยิ่ง การค้นหาว่าฟิล์มเบอร์ที่ 25 อยู่ที่โอคอนเนลหรือไม่ วอลเตอร์ต้องออกจากกิจวัตรความคุ้นเคย ขุดแรงกาย แรงใจ ขึ้นมาใช้เพื่อออกเดินทางไปในสถานที่ที่คิดว่าจะเจอ โอคอนเนล และฟิล์มเบอร์ที่ 25 ที่หายไป 

แต่ระหว่างทางสิ่งที่ วอลเตอร์ มิตตี้ ได้รับ กลับเป็นการทบทวนถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมา

ตัวตน บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ

วอลเตอร์ มิตตี้ มีภาระสำคัญคือการดูแลแม่กับน้อง เขาเป็นเสาหลักของครอบครัวแทนพ่อผู้ล่วงลับ ภารกิจเกินตัวนี้ทำให้ตัวตนและความฝันในวัยหนุ่มของเขาต้องถูกเก็บงำใส่ลิ้นชักเอาไว้ เขาต้องลุกขึ้นยืนประจันหน้าความจริงของชีวิต ด้วยการเริ่มทำงานพาร์ทไทม์เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว

แม้ชีวิตของเขาจะยากลำบาก แต่เขาก็มีน้องสาวที่ดี มีแม่อันเป็นที่รักคอยเป็นกำลังใจอยู่ใกล้ ๆ ทำให้แม้โจทย์ยากเย็นแค่ไหนเขาก็พร้อมลุกขึ้นใหม่ได้เสมอ

ก้าวออกจากพื้นที่เดิมสู่เสรีภาพของชีวิต

ครั้งหนึ่งในวัยเด็ก วอลเตอร์เคยแข่งขันสเก็ตบอร์ดจนคว้าแชมป์รางวัลระดับรัฐ และได้ลงเป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ 

ครั้งนั้น อาจะเป็นความรู้สึกพิเศษครั้งเดียวของ วอลเตอร์ มิตตี้ อย่างน้อยก็เป็นเพียงครั้งเดียวที่ตัวเขาเองจดจำได้ว่าตัวเองทำบางอย่างสำเร็จ เพราะ ‘ชีวิตธรรมดาไร้ความพิเศษ’ ของเขา คงไม่ทำให้ใครจดจำว่าชายหนุ่มโนบอดี้ที่ทำหน้าที่ได้แค่ล้างฟิล์มและเลือกภาพลงนิตยสาร จะเคยเล่นกีฬาโลดโผนอย่างสเก็ตบอร์ดเป็นและได้รับรางวัลอีกด้วย

 ระหว่างการเดินทางของวอลเตอร์ มิตตี้ได้พบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา ได้พบกับสถานการณ์สุดแปลก ที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้ทำในชีวิตของเขา ตั้งแต่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปที่เรือกลางมหาสมุทร ไปจนถึงการเดินทางหนีภูเขาไฟระเบิด

แต่สิ่งที่สร้างรอยยิ้มให้เขาอีกครั้งคือการได้กลับมาเล่นสเก็ตช์บอร์ดบนถนนที่ทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา โมเมนท์ที่ทำให้เขาจำความสุขของความรู้พิเศษที่พาเขาออกจากความธรรมดาและเป็นตัวเองอีกครั้งบนล้อที่ลื่นไถลไปบนถนน 

วอลเตอร์ มิตตี้เป็นคนเข้าใจชีวิต แม้ว่าเขาจะขาดโอกาสใช้ชีวิต

ตลอดทั้งเรื่อง เราจะได้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นภายในหัวของตัวละคร อย่างวอลเตอร์ มิตตี้ นั้นมีโลกอีกใบ เป็นโลกของจินตนาการอันแสนพิเศษ ที่มีเฉพาะเขาเท่านั้นที่เข้าถึงมันได้ พื้นที่ที่ทุกอย่างเป็นไปได้ และตัวเขาเอง เป็นได้ทุกอย่างโดยปราศจากความเป็นจริงใด ๆ ในชีวิตมารบกวน โลกในพื้นที่เล็ก ๆ เหนือบ่าของเขานี่เอง เป็นโลกที่เขาพาตัวเองหนีออกจากกรงของความธรรมดาที่เขาต้องยอมรับในชีวิตจริง

แต่ไม่ใช่ว่าโลกในจินตนาการของเขาไม่ได้แสดงผลในโลกที่เขาอยู่ ฝีมือการเลือกภาพถ่ายมาขึ้นปกนิตยสารที่นำเสนอเรื่องราวโลกกว้างของเขานั้นเฉียบคมจนทุกคนยอมรับแม้ว่าเขาได้แต่ขลุกตัวอยู่ในที่ทำงานกลางเมือง และไม่มีโอกาสจะได้เดินทางเลยแม้แต่ครั้งเดียวแต่ภาพที่เขาเลือกกลับประทับลองอยู่ใจผู้คนได้อย่างมากมาย 

และหนึ่งในคนนั้นคือ ฌอน โอคอนเนล ช่างภาพอิสระผู้ออกเดินทางไปรอบโลก ได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ 

ฌอนพบเจอเรื่องราวจากการเดินทางมากมาย ซึ่งดูเหมือนว่าการเดินทางแบบนี้จะเป็นวิธีที่เปิดโอกาสได้เข้าใจความหมายของคำว่า “ชีวิต” มากกว่าใคร  ในขณะที่วอลเตอร์ มิตตี้ผู้ต้องยอมรับโจทย์ของชีวิตจริงและทำ ‘กิจวัตร’ ที่ต้องทำในแต่ละวันโดยมีพื้นที่ของการเดินทางแค่เพียงในจินตนาการของเขา ความเข้าใจโลกรอบตัวของมิตตี้มีเพียงจินตนาการของตัวเอง และภาพถ่ายของฌอนเท่านั้น แต่นั่นไม่ได้จำกัดความเข้าใจชีวิตของมิตตี้เลย  ฌอนได้บอกกับแม่ของมิตตี้ว่า “วอลเตอร์ มิตตี้ เป็นคนที่เข้าใจชีวิตอย่างแท้จริง”

ออกเดินทางเพื่อรู้ว่าสิ่งที่ตามหานั้นอยู่ใกล้ตัว

วอลเตอร์ มิตตี้โดนไล่ออกจากบริษัท เนื่องจากเขาทำภารกิจตามหาภาพใบที่ 25 ไม่สำเร็จ ในนาทีที่เขากำลังท้อแท้ และนึกไม่ออกว่าจะไปต่อยังไงกับชีวิต แม่ของเขานำคำกล่าวของฌอนมาบอกว่า

“ ฌอนบอกกับแม่ว่าลูกเป็นคนที่ทำงานหนักที่สุด เพื่อให้รูปของเขาปรากฏในแบบที่เขาตั้งใจ”

คำกล่าวนี้ ไม่ใช่ถ้วยรางวัลระดับรัฐที่ยิ่งใหญ่เหมือนครั้งที่เขาได้รับรางวัลจากการแข่งสเก็ตบอร์ดกลับกันเป็นเพียงถ้อยคำจากเพื่อนร่วมงานที่สะท้อนคุณค่าที่แท้จริงของการมีอยู่ของ วอลเตอร์ มิตตี้ และนั่นเป็นพลังที่ทำให้เขาลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง เพื่อไปตามหาภาพใบที่ 25 กลับมาให้ได้

มิตตี้ได้พบว่าแท้จริงแล้วฟิล์มของภาพใบที่ 25 ที่ตามหานั้นอยู่ใกล้ตัวเขามาตลอด เพราะมันถูกซ่อนเอาไว้ในกระเป๋าเงินที่ฌอนแนบมาตั้งแต่ต้น แม้ว่าการออกเดินทางตามหาภาพใบนั้นคือการเปิดโอกาสให้เขาได้ออกไปมองความงามของโลกภายนอก แต่การได้ออกเดินทางไกลเช่นนั้นกลับทำให้มิตตี้ได้ค้นพบความงดงามที่มีอยู่ใน ‘ชีวิตธรรมดาไร้ความพิเศษ’ ของเขาเอง คล้าย ๆ กับว่าเขาจะเข้าใจประโยคที่ ฌอนบอกกับเขาขณะที่กำลังมองดูเสือดาวภูเขา สัตว์แสนสง่างามที่ชอบพรางกาย ว่า 

“ความงามที่แท้จริงไม่เรียกร้องความสนใจ”


Writer

Avatar photo

ณัฐนันท์ วิจิตรบุญชูวงศ์

หนุ่มเมืองลิง หัดพิมพ์ตัวอักษร แต่เรียนถ่ายภาพชอบมองหาอะไรใหม่ ๆ หลงใหลภาพยนตร์ ระยะหลังปวดหลังบ่อย

Illustrator

Avatar photo

ชัชฎา วัฒนสมบุญดี

นักออกแบบที่สนใจเรื่องคนและพฤติกรรมมนุษย์ ตื่นเต้นทุกครั้งเวลาเจอแมวส้มและมีม เป้าหมายในชีวิตตอนนี้คืออยากทำงานที่คนอ่านได้ประโยชน์

Related Posts