สวัสดีครับป้าแหม่ม
ขออนุญาตแนะนำตัวสั้นๆ ครับ ผมอายุ 24 ปี เรียนไม่จบตรี (เรียนไปเกือบปีแล้วไม่ชอบครับ เลยออกมาทำงานหลายอย่างมากมาย สนุกดี)
พอดีว่าผมสอบติด fine art ที่เยอรมัน เมื่อปีที่แล้ว และต้องเรียนที่นั่น 5 ปีครับ
ส่วนตัวผมมาจากครอบครัวต่างจังหวัด ไม่ได้ร่ำรวยครับ ที่บ้านเปิดร้านโชว์ห่วย
แล้วประเทศไทยช่วงหลังดันมีปัญหามากมาย เช่น การจัดการด้านต่างๆ ของรัฐ ความเหลื่อมล้ำ และเงินเฟ้อ และอื่นๆ ในประเทศไทย
ทำให้ผมลำบากใจที่จะไปเรียนต่อครับ สงสารเตี่ยกับแม่ ถึงแม้ว่าเขาบอกผมให้ไปเรียนได้ เพราะมีเงินเก็บสำรองไว้
ผมลังเลมากครับ ใจหนึ่งก็อยากไปเยอรมัน อีกใจหนึ่งก็อยากเปลี่ยนแผนไปสมัครเรียนสายอาชีพที่ญี่ปุ่น 3 ปีจบ (รวมเรียนภาษาเพิ่ม ซึ่งผมไม่มีปัญหากับการเรียนภาษา)
ที่เลือกญี่ปุ่นเพราะว่าจบเร็ว ค่าใช้จ่ายถูกกว่าครับ
ผมควรเลือกยังไงดีครับ เป็นการเลือกที่ใหญ่มากในชีวิต (จริงๆ คิดมานานแล้วครับ แต่คิดไม่ออก อยากขอคำปรึกษาจากคนที่ใช้ชีวิตมาเยอะกว่าผมครับ)
แอบเครียดครับ
จริงๆ คำถามดูง่ายๆ เลย แต่ผมคิดมากนอนไม่เต็มอิ่มมาหลายเดือนแล้วครับ
ขอบคุณมากครับผม
เค, กรุงเทพฯ
………….
คุณเค คุณไม่ได้พูดเลยว่าคุณอยากเป็นอะไร คุณอายุ 24 และต้องมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อย่างน้อยอีกราวๆ ห้าสิบปี เป็นเวลาที่นานโข คุณอยากเป็นอะไรคะ
ให้เดาก็เดาว่าอยากทำงานศิลปะ ถึงได้สมัครไปแต่ต้น เช็กค่ะ เช็กดูว่าที่มหาวิทยาลัยที่สอบติดนั้นมีทุนให้มั้ย เท่าที่ทราบการเรียนในเยอรมันค่าเรียนฟรีนะคะ เข้าไปอ่านดูว่ามีสติวเดนต์ฟันด์มั้ย ส่วนใหญ่มีทั้งนั้น ทีนี้ก็เช็กดูว่ามันครอบคลุมโอเวอร์ซีสติวเดนต์มั้ย ถ้าครอบคลุมก็ขอทุนค่ะ
ไม่มีใครควรใช้เงินพ่อแม่เพื่อการศึกษาต่างประเทศ ในแง่เศรษฐศาสตร์มันเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่ะ แพงเกินไป เว้นแต่พ่อแม่ของคุณจะร่ำรวยมากๆ ยิ่งปริญญาโทยิ่งไม่สมเหตุสมผล
ไม่มีใครควรใช้เงินพ่อแม่เพื่อการศึกษาต่างประเทศ ในแง่เศรษฐศาสตร์มันเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่ะ แพงเกินไป เว้นแต่พ่อแม่ของคุณจะร่ำรวยมากๆ ยิ่งปริญญาโทยิ่งไม่สมเหตุสมผล
ขอให้เข้าใจว่าการศึกษาระดับปริญญาโทไม่ใช่สิ่งจำเป็นเหมือนปริญญาตรี มันคือความเชี่ยวชาญพิเศษ คือเพิ่มเติมเฉพาะทาง เมื่อคุณจบปริญญาตรีนั่นคือคุณมีทุกอย่างที่พร้อมจะทำงานแล้ว
และด้วยเหตุนี้ทุนเรียนปริญญาโทจึงมีค่อนข้างเยอะด้วย หาทุนค่ะ ทุนนอกประเทศมีมากมาย และในยุคสมัยใหม่ที่มองทุกคนเป็นประชากรโลก มันไม่ได้ยากขนาดนั้น เป็นไปได้มากๆ แม้จะไม่ง่ายดายนัก
แต่ถ้าหาไม่ได้ไม่มีทางไปจริงๆ ก็ขอกู้เงินพ่อแม่สักสองปี อย่ามากกว่านี้ ทำงานได้ต้องคืนเงินเขาทันที ต้องใช้คืนนะคะ นั่นคือเงินที่เขาเก็บหอมรอมริบมา เขาต้องมีเงินนั่นเอาไว้ใช้สอยยามแก่เฒ่า คุณจะเอาเงินเก็บทั้งหมดของเขามาเรียนแล้วให้เขาอยู่อย่างจำกัดจำเขี่ยรอคุณทำงานเลี้ยงไม่ได้ หมดสองปีแรกปีต่อๆ ไปคุณต้องหาเงินค่าเรียนเองให้ได้นะคะ
กระนั้น… ต่อให้มหาวิทยาลัยให้ทุนค่าเรียน คุณก็ต้องหางานทำค่ะ เด็กๆ ทั้งโลกหางานทำเป็นค่าที่พักและอาหารเองทั้งนั้น ขณะที่เด็กไทยใช้วิตขึ้นอยู่กับพ่อแม่หมด ไม่เอาๆ คุณโตแล้วค่ะ ในเวลานี้หลายครอบครัวอายุ 24 นี่คือต้องเลี้ยงพ่อแม่แล้วด้วยซ้ำ ตั้งเป้าไปหางานทำ ส่งเสียตัวเองเรียนเหมือนชาวโลกค่ะ
วิธีคิดนี้ก็รวมถึงเรียนที่ญี่ปุ่นด้วยนะคะ สรุป จะค่าเรียนเวลาเรียนมากน้อยก็แปะเอี่ยเท่ากัน คุณต้องหางานทำ ดูแลส่งเสียตัวเองให้ได้
ทีนี้ก็ตัดสินใจง่ายขึ้นละ ว่าแต่คุณอยากเป็นอะไรคะ
คิดให้จบ คิดให้ตก อยากเป็นอะไร สมมติอยากได้เงินมากๆ รายได้สูงๆ สิ่งที่จะเรียนที่ญี่ปุ่นกับเยอรมันอันไหนจะทำเงินได้มากกว่า ถ้าอยากท่องเที่ยวไปทั่ว…อันไหนได้เที่ยวมากกว่า อยากทำงานศิลปะไม่แค่มีฝีมือพอมั้ย…แต่ยังอดทนพอมั้ย ทำลิสต์ค่ะ ข้อดีข้อเสียของทั้งสองอาชีพ จินตนาการว่าอยากมีชีวิตแบบไหนแน่ อยากมีเพื่อนฝูงแวดวงแบบไหน เป้าหมายชีวิตคืออะไร จะแก่ชราลงแบบไหน
และถ้ายังไม่รู้ไม่แน่ใจอย่าเพิ่งไปไหน ทำงานก่อน สักสองสามปีแล้วค่อยว่า หรือไม่ก็ทำงานแล้วเก็บเงินสักสองสามปีแล้วค่อยไปเรียน
และถ้ายังไม่รู้ไม่แน่ใจอย่าเพิ่งไปไหน ทำงานก่อน สักสองสามปีแล้วค่อยว่า หรือไม่ก็ทำงานแล้วเก็บเงินสักสองสามปีแล้วค่อยไปเรียน
ตอนนี้คุณต้องทราบแล้วค่ะว่าคุณอยากเป็นอะไร อยากมีชีวิตทั้งชีวิตไปทิศทางไหน ถ้าคุณทราบคุณจะรู้เองทุกอย่าง คุณขวนขวายดิ้นรนเองทุกอย่าง หาทางเองได้ทุกอย่างไม่ต้องมาถามวอนรพีเลย เอาเวลาไปคิดเรื่องนี้ให้ตกก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะเรียนอะไร ไปที่ไหน จะไปยังไง ไปแล้วจะอยู่ยังไง
ขอให้โชคดีค่ะ
หมายเหตุ : ใครอยากถาม อยากเล่า อะไร พี่แหม่ม แม่แหม่ม หรือป้าแหม่ม สามารถส่งและหรือเล่ามาได้ที่กล่องข้อความของเพจเฟซบุ๊ค mappa หรือ อีเมล์ mappalearning@gmail.com ทีมงานจะรวบรวมนำไปเป็นวัตถุดิบสำคัญแล้วส่งต่อให้พี่แหม่มค่ะ เพราะคอลัมน์นี้ตั้งต้นจากผู้อ่านไม่ใช่ผู้เขียน |