- เบื้องหลังสงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครน คือ ความสูญเสียของพลเรือน
- มีเด็กกว่าแสนคนที่ต้องออกจากโรงเรียน และจำนวนหลักสิบที่เสียชีวิตจากการถูกโจมตี
- “เราต้องการย้ายลูกๆ ไปจากที่นี่ ผมไม่อยากให้เขาเห็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในเคียฟ” เสียงจากคุณพ่อคนหนึ่ง ที่พยายามหาพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกในภาวะสงครามเช่นนี้
“วันนี้สนามเด็กเล่นของเด็กๆ มีหลุมระเบิด เขาเห็นร่องรอยของสงครามและตั้งคำถามว่า โลกเรากำลังลืมความผิดพลาดในศตวรรษที่ 20 ไปแล้วหรือ ทำไมคนต้องล้มตาย”
ส่วนหนึ่งของปาฐกถาจาก Volodymyr Zelensky ประธานาธิบดียูเครนคนปัจจุบัน กล่าวในการประชุมความมั่นคงแห่งมิวนิคเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากโรงเรียนอนุบาลตั้งอยู่บริเวณเมืองเคียฟ เมืองหลวงของประเทศยูเครน ถูกขีปนาวุธของรัสเซียโจมตี
ชนวนสำคัญของสงครามรัสเซีย – ยูเครนที่เกิดขึ้นตอนนี้ คือ Vladimir Putin ประธานาธิบดีรัสเซียเริ่มปฎิบัติทางทหารบุกประเทศยูเครน เพื่อให้ยูเครนยุติการเข้าร่วมกับกลุ่มนาโต้ (NATO หรือองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ เป็นองค์กรที่ให้ความร่วมมือทางการเมืองและทหารกับประเทศสมาชิก) เพราะอาจส่งผลกับอธิปไตยและพรมแดนของรัสเซียซึ่งอยู่ติดกับยูเครน
ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศมีมาอย่างยาวนานตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต (Soviet Union) ทำให้หลายๆ ประเทศแยกตัวออกมาเป็นเอกเทศ ตั้งประเทศของตัวเอง ยูเครนเป็นหนึ่งในนั้น
มีการอ้างว่ารัสเซียที่มีพรมแดนติดกับยูเครน พยายามแทรกแซงการเมืองและให้การสนับสนุนกองกำลังแบ่งแยกดินแดนในยูเครนมาโดยตลอด
ปี 2014 ภายหลังที่ประชาชนยูเครนรวมตัวประท้วงถอดถอนประธานาธิบดี Viktor Yanukovych เนื่องจากเขาล้มข้อเสนอที่ยูเครนจะเข้าร่วมสหภาพยุโรป หรือ EU รัสเซียกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย จึงตัดสินใจส่งกองกำลังทหารมาที่บริเวณคาบสมุทรไครเมีย ก่อนจะสามารถผนวกดินแดนบริเวณนี้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซียได้สำเร็จ
นอกจากนี้ รัสเซียยังคอยส่งทหารมาที่ชายแดนตะวันออกของยูเครน ทำให้เกิดการปะทะกันตามแนวชายแดนจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุดที่ Volodymyr Zelensky ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของยูเครน มีมติจะเข้าร่วมกลุ่มนาโต้ ทำให้รัสเซียตัดสินใจบุกยูเครนจนกลายเป็นสงครามขณะนี้
เพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายและส่งผลกระทบกับพลเรือนไปมากกว่านี้ ทั้งสองประเทศตัดสินใจที่จะเจรจาหาข้อตกลงร่วมกัน แต่การเจรจาครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมานั้นล้มเหลว การเจรจาครั้งที่ 2 จะถูกจัดขึ้นในเร็วๆ นี้
ขณะที่ฉากหน้าสงครามกำลังดำเนินไปพร้อมกับความสูญเสียที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน แต่เบื้องหลังของความขัดแย้ง คือ การวิ่งหนีกระสุน ตามหาชีวิตที่ปลอดภัย และพื้นที่การเรียนรู้ที่หายไปของพลเมืองชาวยูเครน
ตอนนี้เด็กจำนวนแสนคนต้องออกจากโรงเรียน เพราะไม่มีห้องเรียนและคุณครู รายงานล่าสุดโดย The Guardian ระบุว่า มีโรงเรียน 7 แห่งในเมืองเคียฟได้รับความเสียหาย อีกทั้งครูยังได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการโจมตี
“โรงเรียนไม่ควรกลายเป็นสนามรบ ในขณะที่เกิดสงครามและเด็กๆ ก็ได้รับบาดเจ็บ” Irina Saghoyan ผู้อำนวยการ Save the Children eastern Europe ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Guardian
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีเด็กเสียชีวิตกว่า 10 คน รวมถึงอีกจำนวนหนึ่งถูกสังหารขณะที่อยู่ในสถานที่เลี้ยงเด็กและโรงเรียนอนุบาลที่กลายเป็นศูนย์หลบภัย
เวลาเดียวกันที่สถานีรถไฟใจกลางเมืองเคียฟ มีกลุ่มคนหลากเพศ หลายวัย กำลังเตรียมขึ้นรถไฟเพื่อหนี
Tanya Snitko และ Vitaly Snitko พ่อแม่ของลูกชายวัย 4 ขวบ คือ สองคนจากหลายพันคนที่ต้องการหนีเพื่อหาพื้นที่ปลอดภัยให้กับลูก เพราะชีวิตที่ไม่มีน้ำและไฟคงเป็นเรื่องน่ากลัวของเด็กชายวัย 4 ปี
“เราต้องการย้ายลูกๆ ไปจากที่นี่ ผมไม่อยากให้เขาเห็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในเคียฟ”
ด้วยเหตุผลนี้คุณพ่อชาวยูเครนจึงตัดสิน ใจเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้แม้พวกเขาจะอยู่ท่ามกลางสงครามก็ตาม
เพื่อป้องกันบาดแผลหลังจากภาวะสงครามที่อาจเกิดขึ้นกับลูก Snitko จึงบอกลูกชายของเขาว่า เหตุการณ์ที่ลูกเห็นตอนนี้เป็นเพียงเกมซ่อนหาไม่ต่างจากการผจญภัย
Maryna Semenchenko ลูกสาวของแม่ในวัย 27 ปีกำลังต้องการช่วยแม่วัย 68 ปีที่ต้องหลบอยู่ในห้องน้ำที่บ้าน เพราะอาการเจ็บขา การเดินออกจากบ้านจึงเป็นเรื่องยากเกินไป
“มันยากมาก ทุกครั้งที่ฉันลงบันไดฉันเจ็บขาและไม่สามารถขยับมันได้ ฉันจึงเลือกที่จะอยู่บ้าน”
นี่เป็นเพียงความจริงส่วนหนึ่งของเรื่องราวของชีวิตหลังคำว่าสงครามและความสูญเสีย
ที่มา
https://www.youtube.com/watch?v=IVAExDHaKcc
https://www.theguardian.com/world/2022/feb/27/children-caught-up-in-ukraine-war
https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/166435