- ในมหานครที่มีเพียงคนพิเศษเท่านั้นที่จะมีหางได้ ‘จิน’ ก็เป็นคนธรรมดาอีกคนหนึ่งที่ฝันอยากมีหาง
- ความฝันของจินยึดโยงอยู่กับหนังสือปกขาวที่ตกมาจากฟ้าซึ่งมีเนื้อหาที่จินอ่านไม่ออก จินเชื่อว่าวันที่เธอรู้ว่าเนื้อหาในหนังสือคืออะไรจะเป็นวันที่เธอกลายเป็นคนพิเศษ
- จนกระทั่งวันที่ฝันสลาย จินถึงได้รู้ว่าเธอเป็นคนพิเศษอยู่แล้วในสายตาของป๊อด ชายไร้ฝันที่อยู่เคียงข้างจินมาตลอด
(**บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์)
“คนจนอย่างป๊อดกับจิน ถ้าแต่งงานกัน นอกจากลูกๆ ของเราจะเกิดมาแล้วไม่มีหาง แล้วจะยังไม่มีความฝันอีก จินทนไม่ได้หรอกที่จะไม่มีความฝัน แล้วจินก็ไม่อยากให้ลูกๆ มาตราหน้าว่าจินทำให้พวกเขาไม่มีแม้แต่ความฝัน ป๊อดรู้ไหมว่ามันโหดร้ายยิ่งกว่าการไม่มีหางซะอีก” คือคำตอบที่จินให้กับป๊อดเมื่อเขาสารภาพรักกับเธอ
จิน คือแม่บ้านผู้มีความฝันเป็นสรณะและใช้ชีวิตอย่างคนวิ่งตามความฝันจนตกเป็นเป้านินทาของแม่บ้านคนอื่นๆ ในบริษัท ความฝันของจินเริ่มต้นตอนที่เธอยังอยู่บ้านที่ชนบท วันหนึ่งที่เครื่องบินบินผ่านบ้านก็มีวัตถุตกลงมาจากฟ้า วัตถุชิ้นนั้นคือหนังสือปกขาวที่เนื้อหาข้างในเป็นภาษาที่จินอ่านไม่ออก แต่เธอเชื่อว่าสมุดเล่มนั้นพยายามบอกอะไรบางอย่างกับเธอ เธอจึงเริ่มฝันว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้รู้ว่าเนื้อหาในหนังสือหมายถึงอะไร และเมื่อวันนั้นมาถึง เธอคงกลายเป็นคนพิเศษเข้าสักวัน
“คนที่จะมีหางได้ต้องพิเศษเท่านั้น ดารา นักร้อง นักการเมือง คนรวยๆ คนจบจากเมืองนอกถึงจะมีหางได้ คนธรรมดาๆ ชาตินี้ไม่มีวันมีหางได้หรอก”
ในโลกที่บังคับให้เราต้องประสบความสำเร็จ จินก็เหมือนอีกหลายคนที่ต้องมาแสวงหาความสำเร็จในเมืองหลวง เมืองที่มีเพียงคน ‘พิเศษ’ เท่านั้นที่จะมีหางได้ และแม้ความฝันและเป้าหมายของจินอาจจะแตกต่างจากคนอื่นๆ ไปบ้าง แต่ปลายทางก็คือสิ่งเดียวกันนั่นคือการเป็นคนที่มีหางอย่างคนพิเศษพวกนั้นบ้าง แต่จินก็รู้ดีว่าสังคมที่บังคับให้ทุกคนต้องแก่งแย่งล่าหาง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เธอจะมีหางขึ้นมาได้ และชะตากรรมของคนไร้หางก็จะถูกส่งต่อไปที่ลูกด้วย
ความฝันจึงเป็นเหมือนสิ่งที่คอยหล่อเลี้ยงให้จินได้มีกำลังใจใช้ชีวิตไปวันต่อวันแม้จะรู้ว่ามันแทบไม่มีทางเป็นไปได้ นั่นทำให้จินคิดว่ามันคงโหดร้ายเกินไปหากจะให้กำเนิดชีวิตหนึ่งมาแต่ไม่มีกำลังมากพอที่จะทำให้เด็กคนนั้นมีฝันได้
ต่างจากป๊อด ความฝันของป๊อดไม่ใช่ความฝันยิ่งใหญ่แบบคนอื่นๆ เขาไม่เคยอยากมีและถึงกับหวาดกลัวการมีหาง ความฝันของเขาคือเรื่องเล็กๆ อย่างการได้เข้าใกล้จินทีละนิดและสานสัมพันธ์กับจินทีละหน่อ
เส้นทางความฝันของจินมีป๊อดอยู่เคียงข้างเสมอ ป๊อดลาออกจากการเป็นยามที่บริษัทมาขับรถแท็กซี่เพื่อจะได้รับส่งจินจากบ้านถึงบริษัทเพราะจินแพ้รถเมล์และรถไฟฟ้า แต่วันหนึ่งที่จินได้เจอชายชาวต่างชาติซึ่งกำลังถูกตำรวจตามจับที่มีหนังสือปกขาวเหมือนเธอ กับข่าวที่ฉายภาพการสลายการชุมนุมของนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจนมีผู้เสียชีวิตคนหนึ่งซึ่งหน้าตาคล้ายชาวต่างชาติคนนั้น จินก็ปะติดปะต่อเรื่องราวเอาเองว่า ผู้ชายที่มีหนังสือปกขาวชื่อ ‘เดวิด’ เป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เสียชีวิตไปในการสลายการชุมนุม ส่วนสมุดปกขาวก็เปรียบเหมือนสัญลักษณ์สำคัญของภารกิจนั้น
จินเริ่มทำภารกิจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการลาออกจากการเป็นแม่บ้าน เข้าร่วมการประท้วงต่อต้านขยะพลาสติก ปลูกต้นไม้เต็มบ้าน และเก็บขวดพลาสติกที่ถูกทิ้งไว้ตามทางจนเบาะหลังรถแท็กซี่ของป๊อดเต็มไปด้วยขวดพลาสติกซึ่งป๊อดก็ไม่บ่นแม้จะไม่เข้าใจสิ่งที่จินทำลงไปเลยสักนิดและแม้ว่าจินจะยังมองตรงไปที่ความฝันจนไม่เคยหันมามองคนข้างเคียงแบบป๊อด
วันที่จินฝันสลายคือวันที่เธอได้พบกับชายชาวต่างชาติหรือ ‘เดวิด’ ของเธออีกครั้ง เธอเข้าไปทักทายเสมือนคนรู้จักและเล่าเรื่องราวการทำภารกิจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีเขาเป็นแรงบันดาลใจให้เขาฟัง แต่ชายคนนั้นกลับแสดงท่าทีรำคาญ เขาบอกจินว่าเขาไม่ใช่เดวิด แต่เธอยังไม่ยอมตัดใจ จินถามเขาถึงหนังสือปกขาวที่ทั้งเธอและเขามีเหมือนกัน ชายคนนั้นลังเลก่อนจะกระซิบกระซาบคำตอบให้จินฟัง
แล้วจินก็ได้รู้ว่าเนื้อหาของหนังสือที่ทำให้เธอออกล่าฝันไม่ใช่บางสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างที่เธอคิดไว้
ป๊อดยังคงเป็นป๊อด เขาพยายามจะเข้าไปปลอบโยนจิน แต่กลับโดนจินปฏิเสธความหวังดีและบอกเขาว่าขอห่างกันสักพักก่อนที่เธอจะหายตัวไป
ทั้งสองได้กลับมาพบกันอีกหนบนภูเขาขวดพลาสติกของจินในวันที่กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองที่ทุกคนมีหางรวมถึงจิน แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษอย่างที่คาดไว้ ครั้งนี้ป๊อดสารภาพรักกับจินอีกครั้ง เขาบอกจินว่าเขาชอบทุกอย่างที่เป็นเธอ สำหรับป๊อด ทุกการกระทำของจินคือสิ่งพิเศษสำหรับเขา และเมื่อจินที่เริ่มจะทำใจกับความผิดหวังครั้งใหญ่ได้เริ่มเปิดใจฟังป๊อดจริงๆ สักครั้ง เธอก็รู้สึกมีความสุขและถูกเติมเต็มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จินเพิ่งมารู้ตัวว่าเธอมีความรู้สึกนี้มาตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่ได้คุยกับป๊อด มันคือสิ่งที่เธอพยายามค้นหาและคิดว่าจะได้มาหากเธอมีหาง มีฝัน
จินรู้แล้วว่าการเป็นคนพิเศษนั้นอาจไม่ได้หมายถึงการเป็นคนพิเศษของทุกๆ คน ไม่ได้หมายถึงการเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้หมายถึงการเป็นคนที่ฝันเป็นจริง ไม่ได้หมายถึงการเป็นคนที่มีหาง แต่หมายถึงการได้มีใครสักคนที่เห็นเธอเป็นคนพิเศษและรักเธอในสิ่งที่เธอเป็น แล้วในที่สุดจินก็ได้พบเจอสิ่งที่เธอเคยตามหาในตัวป๊อด
จินเลิกกลัวว่าลูกจะไม่มีฝันและเลิกกลัวว่าจะไม่เป็นคนพิเศษ ถึงแม้จินจะยังไม่ล้มเลิกความฝันที่จะกำจัดขยะพลาสติกให้หมดโลก แต่เธอก็ชะลอการวิ่งตามความฝันลงเพื่อจะได้เดินไปพร้อมๆ กับป๊อดและลูกในท้องที่แม้อาจจะเกิดมาไม่มีฝันแต่ก็จะมีความรักจากป๊อดและจินคอยมอบให้ อย่างที่จินได้รับจากป๊อดมาเสมอ