- ไม่ว่าเมื่อไหร่เพื่อนและครอบครัวก็ยังเป็นเพื่อนร่วมทางเสมอ แม้จะไม่เข้าใจก็ตาม
- mappa ชวนทั้งบ้านไปเดตในงาน cosplay เมื่อแม่จ๋าต้องพาจิ๋วเด็กประถมที่ชื่นชอบการ์ตูนไปลองสวมบทบาทตัวละครจากการ์ตูนเรื่องโปรดสักครั้ง
- ลองแต่งให้รู้ดูให้เข้าใจ โลกอีกใบที่ลูกชอบ การเดินทางครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามได้จากอัลบั้มภาพชุดนี้
เพราะสถานที่เดตไม่ได้มีแค่ห้าง และไม่ว่าที่ไหนก็ ‘เดต’ ได้
ทุกความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ลูก พี่น้อง คนรัก หรือเพื่อน ต่างต้องมีสถานที่โปรดตามความสนใจ และไม่จำเป็นต้องชอบเหมือนกัน ถ้าชื่นชอบการร้องเพลงก็คงเลือกไปเดตที่ร้านคาราโอเกะสักแห่ง หรือถ้าชอบกิน คงไม่มีสถานที่เดตไหนเหมาะไปกว่าร้านอาหารดีๆ สักที่
แล้วถ้าหากเราชื่นชอบในโลกแห่งการ์ตูนและเกมล่ะ? จะมีสถานที่เดตไหนให้เลือกบ้าง
‘งานคอสเพลย์’ น่าจะเป็นสถานที่แรกๆ ที่หลายคนนึกถึง
mappa พาทุกคนไปเดตตามแบบฉบับคนรักการ์ตูนไปกับ ‘แม่จ๋า’ และ ‘จิ๋ว’ เด็กประถมที่ชื่นชอบอนิเมะและอยากจะลองสวมบทบาทเป็นตัวละครในการ์ตูนเรื่องโปรดดูสักครั้ง แม่จ๋าจึงต้องรับหน้าที่ในการพาลูกไปท่องโลกแห่งการ์ตูน เกมและการคอสเพลย์ใน ‘Farmhouse Cosplay Contest 2022’
แต่ก่อนจะเริ่มเดินทาง แม่จ๋าต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “คอสเพลย์ (Cosplay)” ที่จิ๋วพูดถึงคืออะไร
คอสเพลย์ (Cosplay) คือการแต่งกายเลียนแบบตัวละครจากในการ์ตูนหรือเกม โดยอาจมีการแสดงท่าทางหรือบุคลิกตามตัวละครนั้นๆ ด้วย เท่านี้คู่หูแม่ลูกก็พร้อมที่จะเดินทางแล้ว
บันทึกการเดินทางนี้จะทำให้ทุกคนได้เห็นว่างานคอสเพลย์อาจไม่ใช่พื้นที่เฉพาะสำหรับคนที่มีความชอบในการ์ตูนเท่านั้น แต่เป็นพื้นที่สำหรับเรียนรู้กันและกันสำหรับทุกความสัมพันธ์
และไม่ว่าเมื่อไร ‘ครอบครัว’ และ ‘เพื่อน’ ก็ยังเป็นเพื่อนร่วมทางคนสำคัญในทุกพื้นที่ แม้ในบางครั้งอาจเป็นเพื่อนร่วมทางที่ไม่ค่อยเข้าใจกันก็ตาม แต่เรายังคงต้องการพวกเขาเพื่อความอุ่นใจไปตลอดทาง
การเดินทางในงานคอสเพลย์ครั้งแรกของแม่จ๋ากับจิ๋วในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามได้จากบันทึกการเดินทางครั้งนี้กันได้เลย
จิ๋ว : เย่! ในที่สุดแม่ก็ยอมพาจิ๋วมา‘งานคอสเพลย์’ สักที ทุกคนเหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนที่จิ๋วชอบดูกับเกมที่ชอบเล่นเลย
คนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย มีคนแต่งเป็นไดโนเสาร์ทีเร็กซ์ด้วย Black panther เนซึโกะกับทันจิโร่ จากดาบพิฆาตอสูร นั่นโกโจ ซาโตรุ จากมหาเวทย์ผนึกมาร รอบหน้าจิ๋วต้องแต่งตัวจัดเต็มกว่านี้แล้ว
จิ๋ว : แม่ๆ ดูสิ พี่ที่ลงประกวดเขาแต่งตัวกันอลังการสุดๆ จิ๋วรู้จักพี่คนนั้นที่เพิ่งลงจากเวที เขาแต่งเป็น Taishakuten จากเกม Onmyuji ที่จิ๋วชอบ แต่งตัวเท่ขนาดนี้ ค่าชุดจะแพงหรือเปล่า แล้วทำไมพี่เขาถึงลงประกวดกันนะ เราแต่งมาเดินเที่ยวเฉย ๆ แบบจิ๋วก็ได้ อยากรู้จังว่า ทำไมพี่เขาถึงตัดสินใจลงประกวด
แม่จ๋า : จิ๋วลองคุยกับพี่เขาดูมั้ย
จิ๋วมองหา จนไปเจอพี่คนหนึ่งซึ่งแต่งเป็น Onmyuji ที่จิ๋วชอบ เลยตัดสินใจเดินไปคุยกับพี่คนนี้ แน่นอน… แม่จ๋าไปกับจิ๋วด้วย
จิ๋วตื่นเต้นแหละ แต่ความอยากรู้อยากถามมีมากกว่า
จิ๋ว : พี่เริ่มคอสเพลย์และตัดสินใจลงประกวดได้ยังไงเหรอคะ
เนรมิต อายุ 24 ปี ผู้เข้าประกวดคอสเพลย์ : Onmyuji
“เริ่มแรกเราชอบอนิเมะ แล้วเพื่อนก็แนะนำการคอสเพลย์ เราเลยไปศึกษาต่อว่าคอสเพลย์คืออะไร พอเราได้มาลองทำ เราก็ได้รู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราชอบ และเรารู้สึกว่ามันต้องมีครั้งหนึ่งที่ต้องลองออกจาก safe zone เพื่อที่จะได้ลองอะไรใหม่ๆ พอเราได้ลองทำไปเรื่อยๆ เรารู้สึกเปลี่ยนแปลงมากเลย เรามั่นใจขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก”
จิ๋ว : พี่แอบกระซิบได้ไหมว่า ค่าชุดแพงหรือเปล่า เผื่อจิ๋วอยากลงประกวดบ้าง แม่จะได้ไม่ดุมาก
“จริงๆ ค่าใช้ค่าใช้จ่ายสูงนะ แต่อยากให้ลองเข้ามาดูสักครั้งค่ะ เราจะรู้ว่ามันมีอะไรสนุกกว่าที่คิด มีอะไรมากกว่าที่เห็นพื้นๆ”
จิ๋ว : เป็นแบบนี้นี่เอง แล้วพี่อีกคนล่ะคะ
ขวัญข้าว อายุ 14 : Black Butler
“เราเริ่มแต่ง เพราะชอบการแต่งตามตัวละครนั้นๆ เรารู้สึกว่าแต่งแล้วมีความสุขก็เลยทำ และที่ผ่านมา เวลาไปงานต่างๆ มีคนสนใจและคนเข้าหา ชมว่างานดี เราเลยรู้สึกชอบผลงานของตัวเอง ทำให้เราอยากแต่งต่อไปเรื่อยๆ และเราก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้นด้วย”
จิ๋ว : จากที่จิ๋วฟังมา ดูเหมือนพี่ๆ ทุกคนจะมี ‘ความชอบ’ ผลักให้กล้าออกไปทำสิ่งใหม่ๆ และค้นพบ ‘ความเป็นตัวเอง’ ผ่านการคอสเพลย์ด้วยล่ะ
ถึงจิ๋วกับพี่ๆ จะว่าแบบนั้น แต่แม่จ๋าก็ยังคงสงสัยอยู่ดีว่าการแต่งตัวเหมือนตัวละครในการ์ตูนหรือเกมมันสนุกอย่างไร จิ๋วคงต้องให้ใครสักคนช่วยจิ๋วอธิบายให้แม่จ๋าฟัง ลองถามพี่ๆ กลุ่มนั้นที่ทุกคนแต่งตัวเหมือนกันหมดเลยดูดีกว่า
พริมโรส อายุ 24 ปี, ข้าวปั้น อายุ 12 ปี, พลอย อายุ 25 ปี และเรน (REN) : My Hero Academia & Record of ragnarok
“ความสนุกของการคอสเพลย์สำหรับเราคือ การได้เจอคนใหม่ๆ คนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน เหมือนเราได้เจอตัวการ์ตูนที่เราชอบออกมาเดิน ต่อให้เราไม่รู้จักแต่ชอบดูเรื่องเดียวกัน ก็เดินมาคุย มาถ่ายรูปร่วมกันได้ ขอ contact กันแล้วเดี๋ยวก็เป็นเพื่อนกัน ประมาณว่า เวลาที่เราชอบเรื่องเดียวกันก็มาเจอกัน”
“นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พาน้องมางานคอสเพลย์ เพราะน้องอยากแต่งด้วย พี่เลยพามาด้วยกัน ปกติน้องชายชอบดูการ์ตูนอยู่แล้ว เราเลยดูด้วยแล้วมาคุยกัน”
จิ๋ว : เพราะพี่สาวสนุกเลยอยากชวนน้องชายมาสนุกด้วยกันใช่มั้ยคะ ดีจังเลยที่พี่กับน้องมีกิจกรรมทำด้วยกัน
แบบนี้แม่จ๋าน่าจะเข้าใจนะ เพราะตอนแม่จ๋าเจอเพื่อนก็คุยกันสนุกจนลืมจิ๋วเลย
แม่จ๋า : เราก็ว่าไป แต่แม่ก็สงสัยเหมือนกันว่า สำหรับเด็กบางคน นอกจากการได้มาเจอกัน การคอสเพลย์จะมีความสนุกมากกว่านี้อีกไหม
อั๋น ม.6 : Spirited Away
“ความสนุกของการแต่งคอสเพลย์ คือการที่เราจะได้เป็นตัวของตัวเอง สมมติว่าเราชอบตัวละครตัวหนึ่งมากๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครชายหรือหญิง ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่เราชอบ การคอสเพลย์ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าอายอีกต่อไป”
จิ๋ว : โห จิ๋วคิดไม่ถึงเลย จิ๋วคุยกับพี่ๆ ที่แต่งคอสเพลย์ไปหลายคนแล้ว แต่จิ๋วอยากรู้จังว่า พ่อแม่คนอื่นเขาคิดยังไงกันบ้าง
จิ๋วเริ่มจากแม่ลูกคู่นี้ที่เหมือนหลุดมาจาก Spy x Family ก่อนเลยดีกว่า
คุณแม่ของไลลาเล่าให้จิ๋วฟังด้วยว่า ที่พาไลลามาวันนี้เพราะน้องอยากใส่ชุดเหมือนในการ์ตูนและอยากเจอคนอื่นที่แต่งด้วย
แม่ของขวัญข้าวก็เล่าให้ฟังเหมือนกันว่า
“ครั้งแรกก็งงว่าลูกเป็นอะไร แต่เห็นเขาแชร์รูป แชร์เพจ เราก็รู้ว่ามันเป็นกลุ่ม เป็นกิจกรรมดีๆ เราก็โอเคแล้วแต่ลูก เราก็ดูกับลูก ถ้ามีงานใกล้ๆ ก็พาไปได้ เราก็สนุกนะ ดูเขาถ่ายรูป ดูคนนู้น คนนี้มาขอถ่ายรูปกับเขา”
จิ๋ว : ก่อนหน้านี้จิ๋วไปถ่ายรูปกับพี่ๆ ที่แต่งตัวเหมือนการ์ตูนเรื่อง Prince of Tennis ด้วย จิ๋วนึกว่าพี่เขามากันแค่ 2 คนเพราะอีกคนแต่งตัวไม่เหมือนใครเลย แต่จริงๆ แล้วเขามาด้วยกันล่ะ ทุกคนเป็นเพื่อนสนิทกันหมดเลย แต่งคอสเพลย์ไปเดินถ่ายรูป ถ่ายคอนเทนต์ด้วยกันบ่อยๆ อีกต่างหาก
บางทีพี่ๆ เขาก็แต่งให้พ่อแม่ดูเลย พ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วยังเคยมางานคอสเพลย์กับพี่ๆ ด้วย พ่อแม่ก็ตื่นเต้นนะ เขาชอบไปงานใหญ่ๆ อย่าง JFest Maruya หรือ TGS
แม่จ๋า : แม่ไม่คิดเลยว่า หลายๆ คนจะไปเที่ยวงานคอสเพลย์กับครอบครัวบ่อยขนาดนี้ แม่นึกว่าส่วนใหญ่จะมากับเพื่อนๆ เสียอีก
จิ๋ว : ใช่มั้ยจ๊ะ จิ๋วเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน แต่จิ๋วก็เคยฟังจากพี่ๆ มาเหมือนกันว่า ในช่วงแรกครอบครัวของพี่เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจ พี่เขาเลยต้องแอบแต่งคอสเพลย์ แต่พอครอบครัวรับรู้ เขาเห็นว่าทำได้ดี ทุกคนถึงยอมรับ
แล้ววันนี้ครอบครัวของเขาก็มาดูด้วย พี่เขาเซอร์ไพรส์และดีใจมากเลย เหมือนได้รับการยอมรับ เพราะไม่คิดว่าครอบครัวจะมา
พี่ๆ หลายคนจะรู้สึกเหมือนทำภารกิจพิสูจน์ตัวเองจนสำเร็จแล้วได้รับรางวัลเป็น ‘การยอมรับ’ จากบอสใหญ่อย่างครอบครัวเหมือนในเกมหรือเปล่านะ
โอ๊ะ! เมื่อกี้จิ๋วได้ยินเสียงประกาศจากพิธีกรว่ากำลังเข้าสู่ช่วงประกาศทีมที่เข้ารอบต่อไปแล้ว เราไปหน้าเวทีกันดีกว่า
จิ๋ว : แม่จ๋าคิดว่าทีมไหนจะเข้ารอบบ้างจ๊ะ จิ๋วเชียร์ทีมที่แต่งตัวเป็นชาวนาวีในเรื่อง Avatar เพราะเขาแสดงดีมากเลย คุณแม่เป็นคนชวนลูกๆ ที่อายุพอๆ กับจิ๋วมาลงประกวดคอสเพลย์เองเลยด้วย ตอนจิ๋วดูการแสดง จิ๋วชอบที่คุณแม่เล่าว่า “คุณแม่ตั้งใจให้การประกวดครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกันระหว่างเขากับลูกๆ และอยากให้ภูมิใจกับสิ่งที่ทำ ทุกคนเลยต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อให้แสดงพร้อมเพรียงกันและยังต้องทำให้อุปกรณ์อย่างหอกกับธนูกลายเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายอีกต่างหาก ทำให้การแสดงนี้เป็นช่วงเวลา 30 วินาทีที่คนดูประทับใจ และมองคนตัวเล็กแบบเราให้เป็นคนตัวใหญ่”
จิ๋ว : จิ๋วประทับใจมากจนจำสิ่งที่เขาเล่าได้เลยล่ะ! ว่าแต่ปีหน้าเราลองลงประกวดบ้างดีไหมคะ
แม่จ๋า : ไม่ไหวหรอก แม่เขิน แม่ก็เหมือนแม่ส่วนใหญ่นั่นแหละ ที่ยังไม่กล้าแต่งคอสเพลย์ออกมาเดินเที่ยวแบบจิ๋ว แต่แม่สามารถมาเป็นเพื่อนจิ๋วแบบนี้อีกได้นะ
จิ๋ว : จริงเหรอ จิ๋วนึกว่าแม่จ๋าจะไม่อยากมากับจิ๋วแล้วเสียอีก
แม่จ๋า : แม่อาจจะยังไม่ค่อยเข้าถึงโลกของการ์ตูน เกม หรือการคอสเพลย์ที่จิ๋วชื่นชอบมากเท่าไหร่ แต่การได้พาจิ๋วมาดูสิ่งที่ชอบ แม่ก็รับรู้ได้ว่าจิ๋วมีความสุขและสนุกกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าขนาดไหน แม่ไม่จำเป็นต้องเข้าถึงโลกของจิ๋วทั้งหมดก็ได้ แค่ได้เห็นจิ๋วสนุกกับสิ่งที่ชอบก็พอแล้ว
แต่ตอนนี้ถึงเวลากลับบ้านแล้วล่ะ ไปกันเถอะ
จิ๋ว : วันนี้ขอบคุณแม่จ๋าที่มาเป็นเพื่อนจิ๋วนะจ๊ะ จิ๋วรู้ว่าแม่จ๋าคงไม่สนุกเท่าจิ๋ว เพราะแม่จ๋าไม่ได้ชอบดูการ์ตูนหรือเล่นเกมแบบจิ๋ว แต่จิ๋วก็ดีใจที่ได้ใช้เวลากับแม่แบบนี้
วันนี้สนุกมาก จิ๋วกับแม่จ๋าได้เห็นว่า ในงานคอสเพลย์ไม่ได้มีแค่พี่ๆ วัยรุ่น แต่มีคนหลายช่วงอายุ ทั้งเด็กประถมเหมือนจิ๋ว พี่ๆ มัธยมจนถึงวัยทำงานที่ชื่นชอบในการ์ตูน ผู้ใหญ่แบบแม่จ๋าที่มาเป็นเพื่อนลูกๆ หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ที่ให้ลูกมาเป็นเพื่อน
จิ๋วกับแม่จ๋าคงต้องบันทึกไว้สักนิดว่า การเดินทางครั้งนี้ เราสามารถเรียนรู้กันและกันได้เสมอ และต่อให้เราไม่สามารถก้าวเข้าไปอยู่ในโลกของอีกฝ่ายได้อย่างเต็มตัว เราก็ยังเห็นเขามีความสุขได้เช่นกัน
บันทึกการเดินทางนี้จะทำให้ทุกคนได้เห็นว่างานคอสเพลย์ไม่ใช่พื้นที่เฉพาะสำหรับคนที่มีความชอบในการ์ตูนเท่านั้น แต่เป็นพื้นที่สำหรับเรียนรู้กันและกันสำหรับทุกความสัมพันธ์
และไม่ว่าเมื่อไหร่ ‘ครอบครัว’ และ ‘เพื่อน’ ก็ยังเป็นเพื่อนร่วมทางคนสำคัญในทุกพื้นที่ แม้ในบางครั้งอาจเป็นเพื่อนร่วมทางที่ไม่ค่อยเข้าใจกันก็ตาม แต่เรายังคงต้องการพวกเขาเพื่อความอุ่นใจไปตลอดทางเหมือนแม่จ๋ากับจิ๋วยังไงล่ะ