แม่กับฉัน เรามีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
พ่อกับแม่เลิกกันตั้งแต่ฉันจำความได้ ความทรงจำที่มีต่อแม่จึงเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่วับๆ แวมๆ ในชีวิตเป็นครั้งคราว บ้างโผล่เข้ามาในบทสนทนาทางโทรศัพท์ บ้างก็พบกันในอาหารมื้อค่ำ แต่หลายต่อหลายครั้ง ความรู้สึกกระอักกระอ่วนและความเงียบที่เสียงดังมักปกคลุมบรรยากาศระหว่างเรา
สำหรับฉัน แม่คือผู้ให้กำเนิดที่มีพระคุณ แต่ในเวลาเดียวกัน ฉันก็เรียกแม่ของตัวเองว่าแม่ได้ไม่เต็มปาก เราไร้ซึ่งความผูกพัน แม่ไม่เคยไปงานวันแม่ที่โรงเรียน อันที่จริงแม่แทบจะไม่เคยทำหน้าที่ ‘แม่’ อย่างที่เห็นว่าแม่ของเด็กคนอื่นๆ ทำกัน และเมื่อเติบโตขึ้น แม่ติดต่อมาหาฉันตอนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก มีเรื่องให้ช่วยเหลือ แต่ไม่เคยติดต่อมาในเวลาอื่นๆ นอกเหนือจากนั้น
ฉันโอเคกับความจริงข้อนี้มาตลอด อย่างน้อยก็พยายามทำใจว่าโอเค แต่บางครั้งก็มีคำถามว่า ‘ทำไม’ เกิดขึ้นในหัวหลายครั้ง เป็น ‘ทำไม’ ที่อาจจะดูใจร้ายกับแม่และตัวเองไปสักหน่อย เช่นว่า ทำไมแม่ต้องไปจากฉัน นั่นเพราะฉันไม่มีคุณค่าพอจะอยู่ต่อหรือ ทำไมแม่ไม่โผล่มาในชีวิตฉันบ่อยกว่านี้ แม่เห็นฉันเป็นลูกอยู่หรือเปล่า ไปจนถึงทำไมตัดสินใจจากกันแล้วยังติดต่อมา
เมื่อได้อ่าน I’m glad my mom died หนังสือชีวประวัติของ Jennette Mccurdy หญิงสาวที่ถูกแม่เลี้ยงดู ปั้นให้เป็นดารามาตั้งแต่เด็ก เล่าความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีระหว่างเธอกับแม่ตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงวันที่แม่จากไป แม้เรื่องราวจะไม่ตรงกับชีวิตฉันเสียทีเดียว แต่ฉันก็เข้าใจในความรู้สึกของเธออย่างลึกซึ้ง
และในเวลาเดียวกัน หนังสือเล่มนี้ยังช่วยปลดล็อกบางอย่างในใจฉันด้วยเช่นกัน
ความฝัน ความหวัง ความกดดันจากคนรุ่นก่อน
ต่างจากฉันที่ไม่ได้สนิทกับแม่ เจนเน็ตหรือ ‘เน็ต’ ตัวติดกับแม่ตลอดเวลาตั้งแต่เธอยังเด็ก
แต่สิ่งที่เรามีเหมือนกัน คือแผลใจวัยเยาว์ที่เกิดขึ้นจากแม่ ไม่ว่าแม่จะตั้งใจให้เกิดหรือไม่ได้ตั้งใจก็ตาม
สำหรับเน็ต แม่คือทั้งชีวิตของเธอ เธอเกิดมาพร้อมกับความฝันของแม่ที่อยากเป็นดาราแต่ไม่ได้เป็น ความหวังว่าการเป็นดาราของเธอจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี นำมาซึ่งความกดดันที่เธอต้องแบกรับบนบ่าตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบขวบดี
ความมั่นใจในตัวเอง มุมมองต่อชีวิต อาหารที่กิน อารมณ์ที่แสดงบนสีหน้า และโรคทางจิตเวชที่ติดตัวมา สิ่งเหล่านี้ล้วนผูกโยงกับแม่ของเธอ และทำให้เราเห็นว่า วิธีที่ผู้ใหญ่ทรีตเด็กๆ นั้น ส่งผลต่อเด็กคนหนึ่งแค่ไหน
“ตลอดหลายปีที่ใจฉันจดจ่ออยู่กับแม่ เวลาทั้งหมดที่ทุ่มเทปรับความคิดและการกระทำทุกอย่างไปในทางที่คิดว่าแม่จะถูกใจมากที่สุดนั้น ล้วนเปล่าประโยชน์ เพราะแม่จากไปแล้ว
“ฉันพยายามสุดขีดที่จะเข้าใจแม่ อะไรทำให้แม่เสียใจ อะไรทำให้สุขใจ และอื่นๆ ซึ่งต้องยอมแลกด้วยการได้รู้จักตัวเองอย่างแท้จริง เมื่อไม่มีแม่อยู่ใกล้ ฉันก็ไม่รู้แล้วว่าอยากได้อะไร ไม่รู้แล้วว่าฉันต้องการอะไร ไม่รู้แล้วว่าฉันเป็นใคร”
ย่อหน้าเหล่านี้ สรุปถึงอิทธิพลที่แม่มีต่อตัวเธอได้เป็นอย่างดี
น้ำหนักที่มาพร้อมกับคำว่าพ่อแม่
มากกว่าความกดดันที่กดทับบนบ่าของเด็กน้อย I’m glad my mom died ยังฉายภาพให้เห็นความสัมพันธ์ในครอบครัวอันร้าวราน มากกว่านั้นคือทำให้เราเห็นสิ่งที่กดทับ ‘ผู้ใหญ่’ อยู่เหมือนกัน
บทบาทความเป็นพ่อแม่นั้นหนักหนา ไม่ต้องพูดออกมาพ่อแม่ทุกคนก็น่าจะรู้ความจริงข้อนี้ ถ้าไม่นับแม่ของเจนเน็ตที่วิ่งเต้นหาโอกาสให้ลูก (ไม่ว่าจะเพื่อเติมเต็มความฝันของตัวเองหรืออยากให้ลูกและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีก็ตาม) ตัวละคร ‘พ่อ’ ของเจนเน็ตก็มีแง่มุมที่น่าสนใจ
หลายครั้งในเรื่อง เราจะเห็นว่าพ่อเป็นคนที่ทำงานหนักเพื่อครอบครัว แต่พอกลับบ้านช้าก็โดนแม่ของเจนเน็ตต่อว่าอย่างรุนแรงถึงขั้นไล่ออกจากบ้านก็มี หรือในฉากทั่วไปที่เจนเน็ตอธิบายว่า
“พ่อไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับฉัน เพราะทำควบสองงานทั้งที่โฮมดีโปกับฮอลลีวูดสตูดิโอ ธรรมดาพ่อกลับบ้านค่ำๆ แล้วตรงเข้านอนพักผ่อนในห้องด้านหลังทันที ถึงห้องนั้นจะเต็มไปด้วยข้าวของ ก็ยังเหลือที่เล็กๆ บนเตียงซึ่งว่างพอจะนอนได้คนเดียว พ่ออยู่ตรงนั้นแหละ อีกเหตุผลที่พ่อไปนอนที่นั่นก็เพราะแม่บอกว่าไม่มีทางนอนร่วมเตียงด้วย…”
“พ่อให้การ์ดวันเกิดใบหนึ่ง (…) แค่พ่อคิดจะให้การ์ดก็มีความหมายบางอย่างกับฉันแล้ว จนกระทั่งระหว่างทางกลับบ้านฉันได้ยินแม่ถามว่า คุณให้การ์ดวันเกิดลูกอย่างที่ฉันบอกรึเปล่า คุณควรใส่ใจความสัมพันธ์กับลูกอย่างที่คนเป็น ‘พ่อ’ ควรทำนะ”
การเป็นพ่อแม่ว่ายากแล้ว แต่ยิ่งกดดันหนักเข้าไปอีกจากคำว่า ‘พ่อแม่ที่ดี’ และ ‘สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ’ นั้นทำให้ฉันในฐานะลูกที่อยู่กับพ่อและไม่ได้อยู่กับแม่ ซึ่งตั้งคำถามกับสิ่งที่พวกเขาทำในบางครั้งได้เข้าใจความรู้สึกของพวกเขา
บางทีคำถามว่า ‘ทำไม’ ที่เกิดขึ้นกับฉัน อาจไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวฉันเลย พ่อแม่อาจจะทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว
แม่คือมนุษย์คนหนึ่ง
สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ I’m Glad My Mom Died บอกกับเราคือ แม่เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีชีวิตจิตใจ ความเจ็บปวด ความเปราะบาง แม่รู้ว่าทำอะไรแล้วมีความสุข แม้บางครั้งจะเป็นสิ่งเดียวกันกับสิ่งที่ทำให้ลูกๆ และคนรอบข้างทุกข์
ใช่ แม่เป็นมนุษย์ และมนุษย์ย่อมเคยทำผิดพลาดกันทั้งนั้น
แต่สำหรับฉัน แง่งามของมนุษย์คือเราเป็น ‘กระบวนการ’ ที่เรียนรู้จากความผิดพลาดและเดินต่อไปได้ เราอาจไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีกเลย หรือมันอาจจะมีบางวันแหละที่เราทำผิดอย่างเดิมซ้ำ แต่นั่นแหละคือความเป็นมนุษย์