จากบทความชุด“เมื่อพ่อแม่เขียนโลกให้ลูก”: สำรวจวรรณกรรมผ่านสายตาของ 6 นักเขียนที่เปลี่ยนความเป็นพ่อแม่ให้กลายเป็นเรื่องเล่าอันเป็นนิรันดร์
“ฉันเขียน Harry Potter ตอนที่ไม่มีอะไรเหลือเลย นอกจากลูกสาวกับจินตนาการ” J.K. Rowling
ในโลกวรรณกรรมเยาวชนยุคปัจจุบัน แทบไม่มีใครไม่รู้จัก Harry Potter เด็กชายผู้มีแผลเป็นรูปสายฟ้าและชะตากรรมอันยิ่งใหญ่ แต่เบื้องหลังการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นนั้นคือชีวิตจริงของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังดิ้นรนในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยว และใช้ปากกาเป็นทั้งไม้กายสิทธิ์และเชือกช่วยชีวิต
จากศูนย์สู่โลกทั้งใบ
Joanne Rowling เขียน Harry Potter บนผ้าเช็ดปากระหว่างนั่งรถไฟในช่วงที่ชีวิตติดลบ เธอเพิ่งหย่าขาดจากสามี ไม่มีงานทำ มีลูกสาวตัวเล็ก และอยู่ในภาวะซึมเศร้าอย่างหนัก จนเธอบอกว่า “ฉันแตะจุดต่ำสุดของชีวิตแล้วจริง ๆ”
การเขียนจึงไม่ใช่การทำตามฝัน แต่มันคือการเอาตัวรอด การได้ใช้เวลาในโลกของเวทมนตร์คือการเยียวยาตัวเอง และการให้ลูกสาวได้เติบโตในโลกที่ไม่รู้จักคำว่า ‘หมดหนทาง’
เด็กชายผู้ไม่ได้เป็นวีรบุรุษแต่แรก
Harry ไม่ใช่เด็กที่เก่งที่สุด ฉลาดที่สุด หรือกล้าหาญที่สุด เขาเป็นเด็กที่กำพร้า โดดเดี่ยว และพยายามเข้าใจว่าโลกทำไมถึงไม่ยุติธรรม แต่เขายังเชื่อในความรัก — เหมือนกับแม่ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาจากความรักที่เหลืออยู่เพียงอย่างเดียวในชีวิตจริง
Rowling บอกว่าเธอไม่ได้สร้าง Harry จากอุดมคติ แต่จากความจริงที่เธอเห็นในเด็กหลายคน (รวมถึงตัวเอง): เด็กที่พยายามทำดีที่สุดเท่าที่ทำได้ แม้ทุกอย่างจะไม่ได้เข้าข้าง
โลกเวทมนตร์ที่เกิดจากความมืด
Hogwarts ไม่ใช่โลกแฟนตาซีที่หนีความจริง แต่เป็นภาพสะท้อนของโลกจริงในรูปแบบที่เด็ก ๆ จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น มีการแบ่งแยกชนชั้น ความอยุติธรรม การเหยียดเพศ และการต่อสู้กับอำนาจนิยม — ทั้งหมดนี้ซ่อนอยู่ในฉากหลังของไม้กายสิทธิ์และคาถา
Rowling ใช้เวทมนตร์เพื่อให้เด็ก ๆ เข้าใจว่า ความกลัวไม่ใช่สิ่งที่ต้องหลบ แต่เป็นสิ่งที่เราสามารถรับมือได้ ด้วยมิตรภาพ ความกล้า และการเลือกทำในสิ่งที่ถูก แม้มันจะยากกว่า
Hermoine: ตัวแทนของแม่
มีคนวิเคราะห์ว่า ตัวละคร Hermoine อาจสะท้อนภาพของ Rowling เอง เด็กหญิงที่อ่านเยอะ ไม่ค่อยเข้าพวก แต่จริงใจและยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อ เสียงของผู้หญิงในหนังสือของเธอจึงทรงพลัง ไม่ใช่แค่ตัวประกอบ แต่เป็นแรงขับเคลื่อนของเรื่องราว
ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างแม่-ลูกในเรื่อง เช่น Lily กับ Harry หรือ Molly กับลูก ๆ ก็มีความลึกและจริงมาก เพราะเธอเขียนจากความรู้สึกจริงของแม่คนหนึ่งที่อยากปกป้องลูก แม้ไม่มีพลังเวทใด ๆ
การเติบโตของศิลปินผู้เขียนจากบาดแผล
แม้ภายหลัง Rowling จะกลายเป็นเศรษฐีพันล้าน แต่จุดเริ่มต้นของเธอคือการเขียนด้วยความเจ็บปวด และเธอยังคงเขียนด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม เธอใช้รายได้ส่วนใหญ่สนับสนุนองค์กรเด็กและผู้หญิง และพูดถึงประเด็นสังคมผ่านวรรณกรรมในแบบที่เด็กจะเข้าใจได้
Harry Potter จึงไม่ใช่แค่นิยายแฟนตาซี แต่คือจดหมายฉบับใหญ่ที่แม่คนหนึ่งเขียนถึงลูกสาว ว่าบางทีชีวิตอาจไม่ง่าย แต่ความรักจะทำให้เรารอดได้เสมอ
เธอไม่ได้แค่เสกคาถา แต่เธอเสกความหวังให้กลับมาในโลกที่ผู้ใหญ่เองก็ลืมไปแล้วว่าเคยเชื่ออะไร