- จอร์แดน พีล คือผู้กำกับที่ขึ้นชื่อเรื่องการสอดแทรกการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของคนชายขอบไว้ในผลงานของเขา
- Nope ภาพยนตร์ลำดับที่ 3 ของพีล เป็นหนังไซไฟ-สยองขวัญ เมื่อวันหนึ่งพี่น้องตระกูลเฮย์วูดพบว่ามีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้นบนฟ้าในบริเวณฟาร์มฝึกม้าของพวกเขา
- เหตุการณ์แปลกประหลาดและสยดสยองนั้นกลายเป็นโอกาสให้ทั้งคู่ได้ทวงคืนสิทธิที่จะถูกจดจำและเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ให้กับคนชายขอบ
“เราจะโยนขยะเน่าเหม็นใส่เจ้า เราจะดูถูกเจ้า จะเอาเจ้ามาเป็นปรากฏการณ์ประจานให้คนดู”
ประโยคจากพระคัมภีร์นาฮูม บทที่ 3 ข้อที่ 6 ปรากฏขึ้นในฉากแรกสุดของ Nope – ภาพยนตร์ที่กำกับโดย จอร์แดน พีล ผู้กำกับคนดำผู้เป็นที่รู้กันดีว่าหนังของเขามักใส่สัญลักษณ์บางอย่างที่แสดงให้เห็นการลุกขึ้นเรียกร้องสิทธิเสรีภาพของคนดำ
สำหรับ Nope แม้หน้าหนังจะเป็นหนังไซไฟ-สยองขวัญ ว่าด้วยเรื่องของสิ่งประหลาดที่อยู่บนท้องฟ้าและคร่าชีวิตผู้คน แต่พีลได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Empire Magazine ไว้ว่าเขาต้องการศึกษาอิทธิพลของเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เรานิยามว่า ‘ปรากฏการณ์’ จากหนังเรื่องนี้ ทั้งการเสพติดปรากฏการณ์ของผู้คนและธรรมชาติอันโหดร้ายของการให้ความสนใจ
ปรากฏการณ์ใน Nope จึงไม่ได้หมายถึงแค่สิ่งแปลกประหลาดที่อยู่บนฟ้าเท่านั้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังซ่อนปรากฏการณ์ที่คนดำถูกทำให้เลือนหายไปในประวัติศาสตร์ ปรากฏการณ์ที่วงการฮอลลีวูดมักจะหาประโยชน์จากคนชายขอบ และปรากฏการณ์ของอำนาจการถ่ายคลิปและการให้ความสนใจในโลกที่ใคร ๆ ต่างก็เสพติด ‘ดราม่า’
จ็อกกี้ที่ไม่มีใครจดจำ
หลังจากที่พ่อจากไปกะทันหันในปรากฏการณ์ประหลาดที่มีวัตถุมากมายตกลงมาจากฟ้า โอเจ เฮย์วูด และ เอ็มเมอรัลด์ เฮย์วูด สองพี่น้องจึงต้องรับช่วงต่อธุรกิจฟาร์มฝึกม้าจากพ่อ
งานแรกที่โอเจและเอ็มเมอรัลด์ได้หลังจากที่โอทิสผู้เป็นพ่อจากไป คือโฆษณาที่เขาต้องนำม้าเข้าประกอบฉาก และแนะนำวิธีปฏิบัติเมื่ออยู่ใกล้ม้าให้กับทีมงาน
เอ็มเมอรัลด์เริ่มด้วยการเล่าว่าเธอและพี่ชายเป็นทายาทของนักขี่ม้าที่ปรากฏอยู่ในม้วนฟิล์มที่ว่ากันว่าเป็นครั้งแรกที่โลกได้รู้จักกับภาพเคลื่อนไหว ม้วนฟิล์มนั้นถ่ายโดยเอดเวิร์ด มายบริดจ์ ชายผิวขาวที่หลายคนยกให้เป็น ‘บิดาของภาพยนตร์’
แต่ไม่เคยมีใครจดจำนักขี่ม้าผิวดำที่อยู่ในม้วนฟิล์มได้เลย
ระหว่างการถ่ายทำโฆษณา ม้าเกิดพยศและก่อความเสียหาย แม้จะเป็นความเสียหายเล็กน้อยในกองถ่ายและไม่ใช่ความผิดของโอเจ แต่ทีมงานก็บอกเขาว่าเขายังไม่เหมาะกับงานนี้ และทำราวกับว่าโอเจจะไม่มีทางเป็นคนฝึกม้าที่ยอดเยี่ยมได้เท่ากับพ่อของเขาเลย โอเจไม่ได้รับโอกาสแก้ตัวในเหตุการณ์ที่เขาไม่ใช่คนผิดด้วยซ้ำ
พี่น้องเฮย์วูดจึงต้องดิ้นรนหารายได้มาจุนเจือกิจการฟาร์มฝึกม้าด้วยวิธีอื่นอย่างการขายม้าให้กับ ริกกี้ ‘จูป’พาร์ก อดีตดาราเด็กเชื้อสายเอเชียที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของสวนสนุก
ปรากฏการณ์คือยาเสพติด
ริกกี้ “จูป” พาร์ก ได้แสดงในซิทคอมเรื่อง Gordy’s Home! ซึ่งเขารับบทเป็นเด็กเอเชียที่ถูกรับเลี้ยงโดยครอบครัวอเมริกัน และบ้านหลังนั้นยังเลี้ยง ‘กอร์ดี้’ ลิงชิมแปนซีไว้ด้วย ในการถ่ายทำตอนหนึ่งเจ้าลิงเกิดคุ้มคลั่ง ในขณะที่คนอื่น ๆ ในกองถ่ายต่างถูกทำร้ายอย่างสยดสยอง บางคนเสียชีวิต บางคนเสียโฉมจนดูไม่ได้ แต่จูปกลับรอดมาได้ราวปาฏิหาริย์
ผู้สร้างพยายามปิดข่าวโศกนาฏกรรมในครั้งนั้นไว้ แต่มันก็ถูกเอามาเล่าซ้ำอย่างตลกขบขัน เป็น ‘ปรากฏการณ์’ ที่ทำให้คนนอกหัวเราะ ส่วนความจริงอันโหดร้ายก็ยังเป็นเรื่องที่นำมาขายได้อยู่เสมอด้วยการถูกทำให้เป็นตำนานลึกลับประเภท “เขาว่ากันว่า” ที่ใคร ๆ ก็ชอบฟัง
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น จูปเติบโตมาเป็นเจ้าของสวนสนุกธีมคาวบอย ในนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ เกี่ยวกับปรากฎการณ์นั้นอยู่ด้วย จูปอาจดูเหมือนคนโหดร้ายที่เอาโศกนาฏกรรมในวัยเด็กมาหากิน แต่ที่จริงโลกภายนอกนั่นแหละที่บอกเขาว่าแม้แต่โศกนาฏกรรมที่โหดร้ายที่สุดที่เด็กคนหนึ่งไม่ควรจะต้องเจอ ยังกลายเป็น ‘ปรากฏการณ์’ ที่ทำเงินได้
มีผีอยู่ในฟาร์ม และถึงเวลาแล้วที่ต้องพิสูจน์
ก่อนที่จะเสียชีวิต โอทิสผู้เป็นพ่อเคยบอกลูก ๆ ของเขาว่า “มีผีอยู่ในฟาร์ม” ปริศนาผีในฟาร์มถูกไขเมื่อทั้งคู่รับรู้การมีอยู่ของสิ่งแปลกปลอมบนท้องฟ้า และสัญชาตญาณคนฝึกสัตว์ของโอเจทำให้เขารู้ว่าสิ่งที่มีรูปร่างคล้าย UFO คือสิ่งมีชีวิตนอกโลก
แม้ม้าจะหายไปจริง ๆ ข้าวของจะเสียหายจริง ๆ พ่อจะเสียชีวิตจริง ๆ จากการล่าของ ‘ผีฟาร์ม’ นี้ แต่สองพี่น้องรู้ดีว่าจะไม่มีใครเชื่อพวกเขาเลยหากไม่มีหลักฐานยืนยัน โอเจและเอ็มเมอรัลด์จึงชักชวนกันซื้อกล้องวงจรปิดมาติดไว้รอบบ้านเพื่อบันทึกภาพ
เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ก่อนที่การเรียกร้องสิทธิของคนชายขอบจะถูกพูดถึง ความรุนแรงที่กระทำต่อพวกเขาหลายต่อหลายครั้งถูกลบเลือนจากหน้าประวัติศาสตร์ เหมือน ‘ผี’ ที่ทุกคนรู้ว่า ‘มี’ แต่ไม่มีใครยอมรับเพราะไร้หลักฐาน จนกระทั่งมาถึงยุคที่ทุกคนมีมือถือ ความรุนแรงที่เคยถูกลืมจึงถูกบันทึกเป็นประจักษ์ว่ามันมีอยู่จริง
เช่นเดียวกับจูป แม้สองพี่น้องจะถือเป็นเหยื่อของสัตว์ประหลาด แต่พวกเขาก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์และหวังว่าภาพถ่ายสัตว์ประหลาดจะทำให้พวกเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้
ชายขี่ม้า และปรากฏการณ์ที่จะต้องถูกจดจำ
หากเราจดจำม้วนฟิล์มของเอ็ดเวิร์ด มายบริดจ์ว่าเป็นภาพเคลื่อนไหวแรกและเป็นต้นกำเนิดของภาพยนตร์ เราก็ควรจดจำว่าชายผิวดำที่ขี่ม้าคนนั้นเป็นนักแสดงคนแรก คนฝึกม้าสำหรับภาพยนตร์คนแรก สตันท์แมนคนแรกในวงการภาพยนตร์ด้วยแต่ก็เช่นเดียวกันกับประวัติศาสตร์เรื่องอื่น ๆ คนชายขอบถูกผลักให้พ้นจากหน้าบันทึกและไม่มีใครจดจำ
ทว่าเมื่อสองพี่น้องทำภารกิจบันทึกภาพสัตว์ประหลาดเสร็จสิ้น สื่อมวลชนเข้ามาทำข่าวอย่างคับคั่ง ภาพที่พวกเขาได้เห็น คือภาพของหญิงสาวผิวดำผู้กำจัดสัตว์ประหลาดและบันทึกภาพมันไว้ได้สำเร็จ กับภาพของชายผิวดำที่กำลังขี่ม้าซึ่งคล้ายกับภาพของชายผู้ไม่มีใครจดจำได้ในปรากฏการณ์ฟิล์มม้วนแรกของเอ็ดเวิร์ด มายบริดจ์
ราวกับว่าสองพี่น้องกำลังจะมาทวงสิทธิที่เคยเป็นของบรรพบุรุษพวกเขาคืน สิทธิที่จะถูกมองเห็น และสิทธิที่จะเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์