วิชารัดเข็มขัดฉบับครอบครัว

Kevin’s Daddy: รักแท้แพ้ ‘งบส่วนบุคคล’

  • ล็อคดาวน์ยาว แต่ค่าใช้จ่ายไม่ได้ล็อคไปด้วย พ่อแม่ WFH ลูกๆ เรียนออนไลน์ ถึงเวลารัดเข็มขัดจริงๆ สักที
  • mappa เปิดซีรีส์ ‘วิชารัดเข็มขัดฉบับครอบครัว’ ที่ห้องเรียนไม่ได้สอน กับ ‘พ่อกิจ’ เจ้าของเฟซบุ๊คแฟนเพจ Kevin’s Daddy
  • วิชาของพ่อกิจไม่ได้โลกสวย แต่ชวนทุกบ้านหันกลับมาอยู่กับความจริงด้วยการคิดถึง ‘งบส่วนบุคคล’ ก่อนความรัก

ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 หลายครอบครัวรายได้ลดลงกะทันหัน ขณะที่รายจ่ายยังคงที่ บ้างต้องจ่ายมากกว่าเดิม 

เพื่อไม่ให้ทุกอย่างสายเกินไป คุณพ่อคุณแม่และทุกคนในครอบครัวต้องหันกลับมาดูเงินในกระเป๋าว่าร่วงหรือแดงทั้งกระดานหรือไม่ 

“การเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยการตกลงและวางแผนทางการเงินอย่างชัดเจน” เป็นคำแนะนำที่สำคัญมากจาก ‘พ่อกิจ’ สุรกิจ พิทักษ์ภากร คุณพ่อลูกสอง นักการเงินและเจ้าของเฟซบุ๊คแฟนเพจ Kevin’s Daddy

‘พ่อกิจ’ สุรกิจ พิทักษ์ภากร

การเงินในครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชีวิตคู่ ถ้าใครมีลูกด้วยก็ยิ่งหนักกว่า 2 เท่า เพราะถ้าจัดการการเงินในครอบครัวไม่ดีจะส่งผลต่อความเครียด ความกดดัน ความสัมพันธ์ แล้วก็จะบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ระยะยาวที่อาจจะมีปัญหา”

‘งบส่วนบุคคล’ สะท้อนการเงินในครอบครัว

พ่อกิจอธิบายว่า เมื่อคนสองคนตัดสินใจลงเรือลำเดียวกันแล้ว ทั้งคู่สามารถเริ่มต้นจากการเช็คสุขภาพการเงินของตนเองอย่างน้อยปีละครั้ง โดยดูจาก ‘งบส่วนบุคคล’ ที่ประกอบไปด้วย ‘งบดุลเเละงบกระเเสเงินสด’ 

งบดุลคืออะไร? 

งบดุลจะดูจากทรัพย์สิน คือ รายได้ที่เกิดขึ้น ทั้งเงินเดือน เงินออม หรือเงินจากกองทุนต่างๆ รวมไปถึงอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน รถ ส่วนหนี้สิน คือ เงินที่เราค้างชำระหรือต้องผ่อน เเล้วนำมูลค่าทรัพย์สินมาหักกับหนี้สินเพื่อดูความมั่งคั่ง หรือศัพท์การเงินเรียกว่า ‘Net Worth’ 

“ถ้าเรียกง่ายๆ ก็คือ ดูว่าอะไรบ้างที่ครอบครัวเราเป็นเจ้าของสิ่งนั้นเพื่อความมั่นคงในชีวิต”

ส่วนงบกระเเสเงินสดจะดูจากรายรับรายจ่าย โดยรายจ่ายจะมี 3 ประเภท คือ 1.‘รายจ่ายประจำ’ ที่เราต้องจ่ายทุกเดือน เช่น ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ไปจนถึงค่าเทอมลูก 2. ‘รายจ่ายผันเเปร’ ซึ่งเป็นรายจ่ายไลฟ์สไตล์หาซื้อความสุขให้กับตัวเอง เเละ 3. ‘รายจ่ายเพื่อการลงทุน’ คือการนำรายรับหักรายจ่ายเเล้วนำไปลงทุนเพื่อซื้อของหรือออมเกษียณ

หลังจากนั้นนำรายรับลบรายจ่ายก็จะทำให้รู้ว่า บ้านเราเหลือเงินเท่าไหร่ เพื่อเริ่มวางเเผนการซื้ออสังหาริมทรัพย์ การลงทุน เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวทางอื่นๆ

หลังจากที่เช็คสุขภาพการเงินของตัวเราเเล้ว ก็ถึงเวลาเช็คสุขภาพการเงินของครอบครัว โดยเฉพาะภาวะการเงินของคู่ชีวิต ซึ่งสุขภาพการเงินในครอบครัวควรอยู่ในเกณฑ์ที่คนในครอบครัวยอมรับได้ 

“สิ่งสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการเงินในครอบครัว คือ เราเปิดใจเคลียร์เรื่องรายได้เเละรายจ่ายของเเต่ละฝ่าย ตั้งเเต่ก่อนตัดสินใจเเต่งงานหรือสร้างครอบครัว รู้ว่าเธอมีภาระอะไร เรื่องไหนซีเรียส เพราะการเงินจะเป็นตัวกำหนดเเผนครอบครัว ในการซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือดูว่าถ้าเรามีลูก เราจะไหวไหม

“ไม่ใช่ว่าไม่เคยรู้อะไรเลย เเล้วแต่งงานกันโดยใช้เงินคนละกระเป๋า วันหนึ่งมีลูกเเล้วเงินไม่พอ ต้องไปลดคุณภาพชีวิตเขา ส่งผลถึงคุณภาพชีวิตพ่อแม่เขาด้วย”

พ่อกิจเล่าข้อตกลงระหว่างเขากับภรรยาว่า เขาจะต้องช่วยจ่ายเงินที่ให้เเม่ของภรรยาทุกเดือน เพราะเธอเลือกที่จะลาออกมาเลี้ยงลูก รายได้หายไป ซึ่งจะส่งผลต่อเเผนการเงินในครอบครัว 

การเงินในครอบครัวจึงไม่ใช่เเค่ดูว่ามีเงินเท่าไหร่ เเต่เป็นข้อตกลงเพื่อวางเเผนอนาคตครอบครัวเเละรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย 

ปรับเเผนการเงินช่วงโควิดด้วยเงินสำรองฉุกเฉิน

ท่ามกลางสถานการณ์การเเพร่ระบาดของโควิด-19 หลายครอบครัวต้องเจอกับความเครียดจากรายจ่ายในบ้านที่สูงขึ้น

คำถามที่เกิดขึ้นคือ เราควรจะปรับเเผนการเงินในบ้านอย่างไร

เเผนการเงินฉบับคุณพ่อนักการเงินในยุคโควิด-19 คือการเปลี่ยนวิถีครอบครัวด้วยการทำอาหารกินเองมากขึ้นเพื่อลดรายจ่ายไลฟ์สไตล์ครอบครัว รวมไปถึงลดรายจ่ายประจำบางอย่าง เช่น ประกันรถ เดิมอาจจะชั้น 1 ก็อาจลดเหลือชั้น 2 หรือ 3 เพราะไม่ได้เดินทางบ่อยเหมือนเเต่ก่อน 

นอกจากนี้คุณพ่อคุณเเม่ควรจะมีเงินสำรองฉุกเฉิน เพื่อสำรองไว้ใช้จ่ายกรณีฉุกเฉิน โดยคำนวณจากรายจ่ายประจำทั้งหมดต่อเดือน ซึ่งเงินส่วนนี้ควรจะมี 3-6 เท่าของรายจ่ายทั้งหมด

“ถ้าเดือนหนึ่งมีรายจ่าย 30,000 บาท เเสดงว่าต้องสำรองไว้อย่างน้อย 90,000 บาท หรือสำรอง 6 เดือนเป็น 180,000 บาท เก็บเอาไว้โดยไม่หยิบมาใช้ ถ้าเกิดจังหวะโดนล็อคดาวน์ ทำงานไม่ได้ ก็นำเงินส่วนนี้มาใช้ ทำให้เรายังปรับตัวเเละเเก้ไขสถานการณ์ทัน”

นอกจากนี้พ่อกิจยังเลือกที่จะมองข้อดีของการอยู่ร่วมกันของสมาชิกครอบครัวในสถานการณ์โควิดว่าอย่างน้อย การอยู่บ้านทำให้ได้มองเห็นลูกในเเบบที่ไม่เคยเห็น เเละเฝ้ามองพัฒนาการของลูกในระยะใกล้

“ลูกเรียนออนไลน์ ทำให้ผมเห็นว่าลูกเรียนยังไง ต้องส่งการบ้านอะไรบ้าง บางวิชามีเต้นลูกเราก็ทำได้เหมือนกัน เพราะปกติไปส่งตอนเช้ากับเย็น ผมก็ไม่รู้ว่ากิจกรรมในโรงเรียนเขาเรียนอะไร มันมีมุมดีที่มาชดเชยในสิ่งที่เราเซ็งกับมัน ลูกเราไปไหนไม่ได้ เเต่ก็เเลกมากับการได้เห็นพัฒนาการเขา”

เมื่อลูกรู้คุณค่าของเงิน เขาจะวางเเผนเเละจัดการเพื่อเป้าหมาย

เด็กชายกิจในวัยเด็ก เรียนรู้เรื่องเงินจากการหยอดกระปุกออมสิน ทำให้เขาเริ่มวางเเผนเเละรู้จักการรอคอยจนกว่าจะเก็บเงินครบเพื่อไปซื้อของเล่นที่อยากได้

เเต่วันนี้เด็กชายกิจกลายเป็นคุณพ่อที่สอนเรื่องการเงินให้กับลูกๆ ด้วยการเเทรกความรู้ไปกับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน หรือช่วงเวลาที่ออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยกัน

สามกิจกรรมหลักที่พ่อกิจสอนลูกๆ คือ สอนอ่านป้ายราคาเมื่อไปร้านสะดวกซื้อ ตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัวระหว่างเดินทางไปโรงเรียนหรือไปเที่ยวว่าสิ่งไหนต้องใช้เงินเพื่อได้มันมา เเละให้ลูกลองนับเงินโดยใช้เเบงก์ปลอมพร้อมกับสอนทำบัญชีรายรับรายจ่ายเเบบง่ายๆ 

พ่อกิจเชื่อว่าเมื่อลูกรู้จักคุณค่าของเงินเเล้ว จะทำให้พวกเขามองเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นตามไปด้วย

“เมื่อลูกเรารู้เรื่องเงิน เขาจะรู้คุณค่าของเงิน เเละคิดค้นวิธีการเเละวางเเผนเพื่อให้ถึงเป้าหมาย เมื่อวันหนึ่งเขามีครอบครัวเขาจะรู้เเละเก็บเงินเพื่อสิ่งที่เขาอยากได้ในอนาคต” 

การสอนทักษะการเงินให้กับลูก คือจุดเริ่มต้นกระบวนการเรียนรู้การวางเเผน จัดการเเละออกเเบบเป้าหมายด้วยตัวเอง เขาจะรู้ว่าเป้าหมายปลายทางคืออะไร เเละทำอย่างไรถึงจะเดินไปถึงเป้าหมายนั้น หลังจากที่ทำได้เขาจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองที่สามารถฝ่าฟันปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างทางได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่

“พ่อเเม่ไม่สามารถอยู่กับลูกได้ตลอด การเปิดโอกาสให้เขาลองเผชิญกับปัญหา ลองจัดการ วางเเผนด้วยตัวเอง จะทำให้เขากล้าตัดสินใจเเละมั่นใจ”  

เมื่อวันหนึ่งที่เขาเติบโต เขาจะสามารถนำทักษะเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กับชีวิตของตัวเอง งบการเงินในบ้านจึงไม่ใช่เรื่องของพ่อเเม่เเค่สองคน เเต่เป็นเรื่องของทุกคนในครอบครัวที่ควรรู้เพื่อร่วมกันวางเเผนอนาคตของครอบครัวร่วมกัน


Writer

Avatar photo

ณัฐธนีย์ ลิ้มวัฒนาพันธ์

ชอบดูซีรีส์เกาหลี เพราะเชื่อว่าตัวเราสามารถสร้างพื้นที่การเรียนรู้ได้ สนใจเรื่องระบบการศึกษาเเละความสัมพันธ์ในครอบครัว พยายามฝึกการเล่าเรื่องให้สนุกเเบบฉบับของตัวเอง

Illustrator

Avatar photo

กรกนก สุเทศ

เด็กกราฟิกที่สนุกกับการอ่านการ์ตูน ดูเมะ ชอบเล่าเรื่องและจำสิ่งต่าง ๆ ด้วยภาพมากกว่าตัวอักษร มองว่าหนึ่งในการเรียนรู้ที่ดีคือการเรียนรู้ผ่านสี รูปภาพ รูปทรง

Related Posts