- ในช่วงวัยของลูกที่ยังต้อง ‘เล่น’ เพื่อเสริมพัฒนาการ การมองหาของเล่นที่เหมาะสมแต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเงินในกระเป๋ากลายเป็นความท้าทายของพ่อแม่ยุคใหม่อย่างปฏิเสธไม่ได้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘Keimen Kids’ ธุรกิจให้เช่าของเล่นที่อยากสร้าง ‘การเล่นที่ไม่เล่น’ ให้กับทุกคนในครอบครัว
- คำโฆษณาบนโซเชียลมีเดียของ Keimen Kids ระบุว่าพวกเขาคือ ‘Netflix for kids’ เพียงจ่ายรายเดือน ราคาเดียว ไม่มีค่าส่ง ไม่ต้องวางมัดจำ พ่อแม่ผู้ปกครองก็สามารถเข้ามาเลือกของเล่นในแคตตาล็อกที่มีมากกว่า 400 ชิ้นได้
- สิ่งที่ Kiemen Kids ต้องการทำ ไม่ใช่แค่ในแง่มุมของการเป็นพื้นที่ให้เช่าของเล่นเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลและผู้แนะนำวิธีการเล่นของเล่นให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองด้วยเช่นกัน
- แม้การซื้อของเล่นจะ ‘ง่ายกว่า’ การเช่าของเล่นมาก แต่ในวันที่ขยะกำลังล้นโลก การเปลี่ยนของเล่นให้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษ์โลกก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถทำได้ เพื่อช่วยปกป้องบ้านหลังใหญ่หลังนี้ให้กับลูกหลานของพวกเรา
แม้ ‘ของเล่น’ จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยพัฒนาและเสริมสร้างทักษะให้กับเด็กๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคที่สังคมเริ่มตระหนักรู้เรื่อง ‘ขยะล้นโลก’ ของเล่นจึงกลายเป็นของใช้อีกประเภทหนึ่งที่ถูกมองว่ามีระยะเวลาการใช้งานเพียงช่วงสั้นๆ และถูกแปรสภาพไปเป็นขยะอีกชิ้นให้กับโลกใบนี้ ทว่า ในช่วงวัยของลูกที่ยังต้อง ‘เล่น’ เพื่อเสริมพัฒนาการ การมองหาของเล่นที่เหมาะสม ถูกอกถูกใจคนเล่น แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเงินในกระเป๋า จึงกลายเป็นความท้าทายของพ่อแม่ยุคใหม่อย่างปฏิเสธไม่ได้ และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘Keimen Kids’ ธุรกิจให้เช่าของเล่นที่อยากสร้าง ‘การเล่นที่ไม่เล่น’ ให้กับทุกคนในครอบครัว
Mappa พาไปรู้จัก Keimen Kids ธุรกิจรูปแบบใหม่ที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นเคย แต่รับรองว่าถ้าได้รู้จัก คุณอาจจะเปลี่ยนมุมมองต่อการเล่นของเล่นไปเลย!
‘Keimen’ เมล็ดพันธุ์ที่กำลังเจริญเติบโต
คำว่า ‘Keimen’ อาจจะเป็นคำที่แปลกหูไปบ้างสำหรับคนไทย แต่สำหรับ ‘เกา หลี่ขุยหลิน (Gao Likuilin)’ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Keimen Kids เชื่อว่านี่คือคำที่เหมาะสมกับธุรกิจเช่าของเล่นแบบจ่ายรายเดือน ที่เขาและพาร์ทเนอร์คนไทยอีก 2 คนร่วมกันสร้างขึ้น
“คำว่า Keimen เป็นคำในภาษาเยอรมันที่แปลว่า ‘การเจริญงอกงาม’ เพราะผมเชื่อว่าเด็กๆ ก็เหมือนเมล็ดพันธุ์พืช ที่จะเติบโตได้ ก็ต้องใช้แสงแดดที่เพียงพอและการหมั่นรดน้ำพรวนดินอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เมล็ดพันธุ์นั้นได้เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ที่จะกลายเป็นแหล่งพึ่งพิงของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในวันข้างหน้า และนั่นคือสิ่งที่ Keimen Kids อยากทำ เราอยากให้การสนับสนุนและร่วมมือกับพ่อแม่เพื่อช่วยดูแลเด็กๆ และช่วยให้เด็กๆ ได้เจริญเติบโตงอกงามเหมือนกับเมล็ดพันธุ์ครับ” เกาเริ่มต้นเล่า
จากประสบการณ์ตรงของการเป็นคุณพ่อมือใหม่ ทำให้เกามองเห็น ‘ปัญหา’ เรื่องพื้นที่และของเล่นของลูกน้อย เพราะการซื้อของเล่นใหม่ๆ ให้ลูก นอกจากจะไม่มีอะไรการันตีว่าลูกจะชื่นชอบของเล่นเหล่านั้นแล้ว ยังส่งผลต่อเรื่องการจัดเก็บของเล่นในบ้านที่มีขนาดลดลงอีกด้วย
“ผมคิดว่ามันเป็นความท้าทายของพ่อแม่สมัยใหม่เลยนะ เพราะเราอยู่ในบ้านที่พื้นที่เล็กลง เพื่อความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้น แต่ของใช้สำหรับเด็กเนี่ย มันเป็นสิ่งของที่วันหนึ่งเด็กๆ จะโตขึ้นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว ของเล่นบางอย่างที่เด็กๆ เคยเล่นในช่วงอายุหนึ่ง หลังจากนั้นเขาจะไม่หยิบมันมาเล่นอีกแล้ว แล้วเราจะทำยังไงกับมันล่ะ เอาไปขาย เก็บไว้ในห้องเก็บของเผื่อมีลูกอีกคนก็จะได้เอาออกมาใช้ ซึ่งสุดท้ายมันก็จะกลายเป็นขยะ”
Netflix for kids ธุรกิจให้เด็กเช่าของเล่น
คำโฆษณาบนโซเชียลมีเดียของ Keimen Kids ระบุว่าพวกเขาคือ ‘Netflix for kids’ ที่ให้พ่อแม่ได้เข้ามาเลือกสรรของเล่นให้เด็กๆ ในครอบครัว เพียงจ่ายรายเดือน ราคาเดียว ไม่มีค่าส่ง ไม่ต้องวางมัดจำ ก็สามารถเลือกของเล่นในแคตตาล็อกที่มีมากกว่า 400 ชิ้นมาให้ลูกๆ ได้เล่นที่บ้าน เรียกว่าเป็นรูปแบบการทำธุรกิจที่ถูกคิดขึ้นมาเพื่อให้พ่อแม่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายของครอบครัว และไม่ต้องกังวลเรื่องเงินค่าของเล่นของลูกๆ อีกต่อไป
“ผมชอบ Netflix เพราะมันใช้ง่ายดี ในฐานะพ่อแม่ คุณมีหลายเรื่องที่ต้องกังวล ดังนั้นการเช่าของเล่นจึงเป็นเรื่องที่คุณไม่ต้องกังวลเลย เพราะการเช่าของเล่นจากเรา จ่ายราคาเดียว รวมทุกอย่าง ไม่มีค่าส่ง ไม่ต้องวางมัดจำ หรือถ้าคุณทำของเล่นหาย เราก็จะไม่คิดเงินคุณเพิ่ม แต่ก็มีบทลงโทษบางอย่างที่คุณเอาไปสอนเด็กๆ ให้รู้จักระมัดระวังและรับผิดชอบต่อของเล่นเหล่านั้นได้ เรียกได้ว่ามันคือการที่คุณสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ เดือนนี้คุณจะใช้เงินในการซื้ออาหารเท่าไร ใช้เงินกับของเล่นเท่าไร เพราะมันเป็นค่าใช้จ่ายที่ตายตัวแล้ว”
ลูกเล่น พ่อแม่ต้องเล่นด้วย
นอกจากค่าใช้จ่ายที่ตายตัวแล้ว Keimen Kids ยังแบ่งของเล่นออกเป็น 5 ประเภทเพื่อช่วยพัฒนาทักษะของเด็ก ๆ ได้แก่ ของเล่นเพื่อฝึกการใช้กล้ามเนื้อ ของเล่นเพื่อฝึกการแก้ปัญหา ของเล่นเพื่อฝึกทักษะทางสังคม ของเล่นเพื่อฝึกทักษะทางภาษา และของเล่นเพื่อฝึกการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีของเล่นที่แตกต่างหลากหลายที่รับรองความสนุกและเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเหล่าเด็กน้อยได้อย่างแท้จริง
“อีกมุมหนึ่งคือเรื่องของพัฒนาการ เราเชื่อว่าเด็กอายุ 0 – 5 ขวบนั้นเป็นช่วงวัยที่ ‘การเล่น’ คือการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด การพัฒนาของสมองเกิดขึ้นจากการเล่น แล้วเราจะสร้างการเล่นที่มีประสิทธิภาพได้อย่างไร ซึ่งคุณสามารถไปดูในแคตตาล็อกของเราได้ เราออกแบบมาเพื่อช่วยให้พ่อแม่ตัดสินใจได้ง่ายว่าของเล่นแบบไหนช่วยเรื่องอะไร ช่วยเสริมทักษะ หรือพัฒนาแง่มุมไหนของลูก จากนั้นเราก็จะบอกพ่อแม่ว่านี่คือวิธีการเลือกของเล่นนะ”
อาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่ Kiemen Kids ต้องการทำ ไม่ใช่แค่ในแง่มุมของการเป็นพื้นที่ให้เช่าของเล่นเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งข้อมูลและผู้แนะนำวิธีการเล่นของเล่นให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองด้วยเช่นกัน
“พอเราสอนพ่อแม่เรื่องวิธีการเลือกของเล่น ก็ทำให้ผมได้รู้ว่าพ่อแม่เยอะมากที่ไม่รู้จักวิธีการเล่นกับลูกเลย พ่อแม่หลายคนเลยนะที่มาถามผมว่า คุณมีของเล่นอะไรบ้าง เพราะเขาไม่รู้ว่าจะซื้อของเล่นให้ลูกอย่างไร พวกเขารู้สึกว่าเขาซื้อของเล่นให้ลูกแล้ว เดี๋ยวลูกก็จะเล่นเอง ซึ่งมันไม่ถูกต้อง การเล่นของเล่นคือการสร้างกิจกรรมโดยใช้ของเล่นชิ้นนั้นๆ เพราะเด็กเล็กอาจจะยังไม่มีจินตนาการมากขนาดนั้น พ่อแม่จึงจำเป็นต้องช่วยสร้างจินตนาการให้ลูกผ่านการเล่นของเล่นนี่แหละ ถ้าพ่อแม่เล่นด้วยก็สามารถทำกิจกรรมได้มากกว่าปล่อยให้เด็กเล่นคนเดียว อาจจะมีกิจกรรมที่ซับซ้อนมากกว่า แล้วก็ทำให้เด็กได้เรียนรู้เพิ่มมากขึ้น”
เช่าดีกว่าซื้อ… จริงหรือ?
“ผมเชื่อแบบนั้นจริงๆ ว่าการเช่าดีกว่าการซื้อ ในช่วงเวลานี้คนเริ่มพูดถึงเรื่องความยั่งยืน (sustainability) ในกลุ่มของเล่นกันแล้ว แต่มันยังอยู่ในเรื่องของการเลือกใช้วัสดุมาทำของเล่น เช่น ไม้หรือยางพารา ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีนะครับที่พวกเขาใช้ของเหล่านี้ และคิดถึงโลกในอนาคต คิดถึงสิ่งแวดล้อม แต่มันยังมีอีกมิติหนึ่งคือเรื่อง ‘พฤติกรรมผู้บริโภค’ ที่เวลาเราพูดเรื่องความยั่งยืน มันไม่ใช่แค่การใช้วัสดุที่ยั่งยืน แต่มันรวมถึงการบริโภคสินค้าเหล่านั้นด้วย ซึ่ง Keimen Kids ก็เป็นแบบนั้นแหละ ของเล่นของเราก็ยังเป็นของเล่นนี่แหละ เพียงแต่เราเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคให้มาเป็นการเช่าแทนการซื้อ”
ของเล่นสักชิ้นที่ถูกซื้อมาให้ลูกๆ มีความเป็นไปได้ว่ามันจะถูกหยิบมาเล่นเพียงครั้งหรือสองครั้ง จากนั้นพวกเขาก็จะเลิกเล่นของเล่นชิ้นนั้นไปตลอดกาล แต่ถ้าของเล่นเหล่านั้นถูกหมุนเวียนไปให้เด็กคนอื่น มันก็จะถูกนำมาใช้เล่นได้อีกหลายครั้ง และนั่นคือ ‘ความยั่งยืน’ ที่เกาพูดถึง
อย่างไรก็ตาม เกาก็ยอมรับว่าการซื้อของเล่น ‘ง่ายกว่า’ การเช่าของเล่นมาก แต่ในวันที่ขยะกำลังล้นโลก การเปลี่ยนของเล่นให้เป็นส่วนหนึ่งของการรักษ์โลกก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถทำได้ เพื่อช่วยปกป้องบ้านหลังใหญ่หลังนี้ให้กับลูกหลานของพวกเรา
“ทำไมเราอยากสร้างธุรกิจที่เน้นเรื่องความยั่งยืน ก็เพราะเราอยากสร้างสังคมที่ดีให้กับลูกหลานรุ่นต่อไปของเรา เราอยากให้พวกเขามีอากาศสะอาดได้หายใจ อยากให้พวกเขามีแม่น้ำสวยๆ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และการจะทำให้เป็นแบบนั้นได้ เราก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง” เกากล่าวปิดท้าย